search
ข้อมูล ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ท่องเที่ยว
ประเภทธรรมชาติ
ประเภทศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณี
การคมนาคม
 

 

 

 

 

ถ้ำขมิ้น (หรือถ้ำเหม็น)
 
 
ข้อมูลทั่วไป :

ประวัติถ้ำขมิ้น
ถ้ำขมิ้น เป็นถ้ำที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนารายมหาราชมีพระราชดำริให้ท่านขุนวรรณวงศ์ษา เดินทางมาบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุนครศรีธรรมราช ขณะเดินทางมาถึงอำเภอบ้านนาสารเป็นฤดูน้ำหลาก จึงได้ต่อเรือข้ามคลองฉวางแต่เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวกรากทำให้เรือชนกับตอไม้จนเรือแตก กระแสน้ำได้พัดพาคณะของท่านขุนวรรณวงศ์ษา มาขึ้นฝั่งได้ที่บริเวณถ้ำขมิ้น คณะของท่านจึงได้ออกสำรวจพื้นที่รอบ ๆ จนพบถ้ำขมิ้นและอาศัยอยู่ที่ถ้ำขมิ้นจนเสียชีวิต ต่อมาชาวบ้านที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงเชื่อกันว่าเมื่อมีผู้มีบุญเข้าไปในถ้ำขมิ้นจะได้พบกับไก้แก้ว ซึ่งจะนำทางไปพบกับขุมสมบัติ
กำเนิดถ้ำขมิ้น
ถ้ำเกิดขึ้นโดยธรรมชาติเป็นผู้รังสรรค์ ซึ่งใช้เวลานับพันนับหมื่นปี ถ้ำขมิ้นเป็นถ้ำประเภท Solution Cave ที่เกิดในภูเขาหินคาร์บอเนตและซัลเฟต โดยเกิดจากน้ำฝนและน้ำใต้ดินที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมกับไอออนของน้ำทำปฏิกิริยากัน กลายเป็นกรดคาร์บอนิคอย่างอ่อน ไหลผ่านตามรอยแยกของชั้นหินที่อยู่ใต้ดิน โดยจะละลายหินที่มีส่วนประกอบของแร่แคลไซต์ หรือ แคลเซียมคาร์บอเนต ให้เป็นรอยแตกหรือรูโพรงกว้าง ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไปรอบแตกก็จะกว้างขึ้น ๆ จนกลายเป็นถ้ำในที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจในถ้ำขมิ้น
ในอดีตเมื่อ 40 – 60 ปีก่อน มีการให้สัมปทานเก็บมูลค้างคาว ปัจจุบันยังมีร่องรอยและอุปกรณ์ต่าง ๆ หลงเหลืออยู่ นอกเหนือจากความสนุกสนานตื่นเต้นจากการสัมผัสถึงความมโหฬารของถ้ำแล้ว ยังได้ชมความสวยงามของหินงอกหินย้อย หรือใช้เป็นสถานที่สำหรับการวิจัยทางโบราณคดี ศาสนสถาน ธรณีวิทยา สัตววิทยา ซึ่งจุดที่น่าสนใจในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติภายในถ้ำระยะทาง 1,250 เมตร มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ดังนี้
๑) ปากถ้ำเป็นที่ตั้งของศาลปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมีกระแสลมเย็นพัดออกมาจากปากถ้ำ
ด้านหลังของศาลมีบันไดลงสู่ห้องโถงต่าง ๆ ภายในถ้ำได้
2) ลานรถจิ๊ปเป็นคูหาใหญ่ที่ปรากฏร่องรอยของการสัมปทานมูลค้างคาว เช่นซากรถจิ๊ป รอยล้อรถจิ๊ป กระสอบ และถัง
3) ลานท่านขุนเป็นทำนบหินปูนขนาดใหญ่ บริเวณนี้มีหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่มาบรรจบกันเรียกว่า “เสาเอก” และหินงอกที่สูงแหลมเรียกว่า “หลักชัย”
4)ช่องฟ้าเป็นช่องทะละของเพดานถ้ำ ซึ่งค้างคาวนับแสนตัวที่อยู่ในถ้ำใช้ช่องทางนี้เป็นทางเข้า – ออกถ้ำ ในเวลาเที่ย
วันจะมีลำแสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องผ่านช่องทางนี้
5)ลานอพอลโลหรือลานหมากขุมเป็นทำนบหินปูนขนาดใหญ่ ในช่วงที่ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จะมีน้ำไหลลงมาที่
ลานนี้อย่างงดงาม ด้านบนทำนบมีหลุมคล้ายหมากขุม
6)ห้องแจกันเป็นคูหาใหญ่ มีหินงอกที่มีลักษณะคล้ายแจกัน แต่ในปัจจุบันแจกันถูกทำลายไปแล้ว
7) ห้องเจ้าหญิงเป็นคูหาที่มีม่านหินปูนเป็นรูปผู้หญิง มีรัดเกล้าบนศีรษะดูคล้ายเจ้าหญิง
8) ม่านสีชมพูเป็นม่านหินปูนที่มีลวดลายเป็นริ้ว ๆ สีชมพู ซึ่งมองดูเป็นภาพคล้ายพระพุทธรูปปางสมาธิ
9) ม่านฟ้าเป็นม่านหินย้อยขนาดใหญ่ที่สวยงามและแปลกตาม ซึ่งบางจุดดูคล้ายเศียรช้าง
10) หินงอกหินย้อยเป็นห้องที่ยังมีการเจริญเติบโตของหินงอกหินย้อย และเป็นคูหาเดียวที่มีหินคด หรือเกลียวหินปูน

 

 

เวลาเปิดทำการ : 
- เปิดเวลา 06.00-15.30 น.
- ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
- ติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่ถ้ำ
- สวมรองเท้าหุ้มส้นหรือรองเท้าเดินป่า และเตรียมไฟฉายไปด้วย
 

 

ข้อมูลการติดต่อ :

    ชุมชนคลองหา
    หมู่บ้าน คลองหา ถนน นาสาร-สุราษฎร์
    ตำบล นาสาร อำเภอ บ้านนาสาร จังหวัด สุราษฎร์ธานี

    รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
    สำนักงานอุทธยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น
    บุคคลอ้างอิง นายบัญฑิตย์ บุญสุข อีเมล์ surat95592@hotmail.co.th
    ชื่อที่ทำงาน อุทธยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น
    หมู่ที่/หมู่บ้าน ชุมชนคลองหา ถนน นาสาร-สุราษฎร์
    ตำบล นาสาร อำเภอ บ้านนาสาร จังหวัด สุราษฎร์ธานี รหัสไปรษณีย์ 84120

    --------------------
    ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากเว็บไซต์ http://m-culture.in.th/

 

 

เดินทางอย่างไร :

 

รถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองสุราษฎร์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4009 ไปทาง อ.บ้านนาสาร เลข รพ.บ้านนาสารประมาณ 1 กม. บริเวณหลัก กม.37 มีทางแยกซ้ายมือเข้าถ้ำขมิ้น เป็นทางลาดยางแคบๆ ไปอีก 1.5 กม. 

รถไฟ ขึ้นขบวนที่ผ่านสถานีนาสาร ลงที่สถานีนาสาร แล้วเหมารถสองแถวที่สถานี 

รถประจำทาง ขึ้นรถสายสุราษฎร์ฯ-บ้านนาสาร