ในอดีตจังหวัดชุมพร จะเกิดอุทกภัยในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองชุมพร และบริเวณโดยรอบบ่อยครั้งโดยเฉพาะการเกิดมหาวาตภัยใต้ฝุ่นเกย์ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2532 สร้างความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในจังหวัดชุมพร ต่อมาได้เกิดพายุโซนร้อน “ซีต้า” เมื่อวันที่ 18-22 สิงหาคม 2540 สร้างความเสียหายแก่ชาวชุมพรอย่างมาก และในเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน กรมอุตนิยมวิทยาประกาศว่า มีพายุลินดาจะเคลื่อนเข้าฝั่งจังหวัดชุมพรอีกครั้ง สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวชุมพร เป็นอย่างมาก ความทราบถึงเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยถึงความเดือดร้อนของชาวชุมพร จึงมีพระราชดำริเร่งรัดให้มีการขุดคลอง “หัววัง-พนังตัก” ระยะทาง 1,460 เมตร ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อจะได้ระบายน้ำลงสู่ทะเลก่อนที่พายุลินดาจะขึ้นฝั่ง โดยพระองค์ท่าน ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ผ่านมูลนิธิชัยพัฒนา 18,000,000 บาท และอีกส่วนหนึ่งจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เพื่อใช้ในการดำเนินงานป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร ประกอบด้วย การขุดคลองระบายน้ำหัววัง-พนังตัก การขุดลอกคลองท่าตะเภา คลองสามแก้ว คลองท่านางสังข์ การพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ (แก้มลิง) การก่อสร้างประตูระบายน้ำสามแก้วจนแล้วเสร็จ ซึ่งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาเมืองชุมพรได้พ้นจากภัยพิบัติอุทกภัยมากว่า 10 ปี
จังหวัดชุมพรมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่ หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ให้เป็นศูนย์เรียนรู้และมีกิจกรรมที่เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิตแสดง ความสำเร็จของเครือข่ายจากภูผาสู่มหานที ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนที่นำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปปฏิบัติจนเกิดผลเป็นรูปธรรม |