กำหนดการเดินทาง
วันแรก หาดใหญ่ – สงขลา
- 08.30 น. คณะออกเดินทางจากที่พักหาดใหญ่ สู่สงขลา เพื่อเยี่ยมชม
- 09.00 น. สวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อ.เมือง ชมหอประวัติศาสตร์พลเอกเปรม และเดินป่าศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนตามเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติรอบทะเลสาบสงขลา
- 10.30 น. ข้ามสะพานเปรม ติณสูลานนท์ ชมวิวทิวทัศน์ของะพานและทะเลสาบสงขลา
- 11.00 น. ชมพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ที่วัดแหลมพ้อเกาะยอ วัดเก่าแก่กว่า 200 ปี ครั้งหนึ่งในอดีตพระบาทสมเด็จจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ทรงประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือหน้าวัด อีกทั้งมีประติมากรรมที่เก่าแก่ที่กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานและมีพระพุทธรูปปางปรินิพพานองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมันรัตนโกสินทร์ตอนต้น “อุโบสถ” ที่มีรูปแบบศิลปกรรมตามพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นอุโบสถมีระเบียงโดยรอบ
- 11.30 น. เที่ยวชมสถาปัตยกรรมบ้านทรงไทยปักษ์ใต้ที่วัดท้ายยอ สมัยรัชกาลที่ 1 วัดท้ายยอ เป็นวัดที่ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมล้ำค่า ควรค่าแก่การอนุรักษ์และหวงแหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "กุฏิแบบเรือนไทยปั้นหยา" อายุกว่า 200 ปี หลังคา ใช้กระเบื้องดินเผาเกาะยอและกระเบื้องลอนแบบเก่า มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ คือ เสาเรือนกุฏิจะไม่ฝังลงในดินแต่จะตั้งอยู่บนตีนเสาซึ่งเป็นที่รองรับเสาอันเป็นลักษณะเฉพาะของบ้านชาวไทยในภาคใต้เท่านั้น
- 12.00 น. ชมวิถีชีวิตของชุมชนคนเกาะยอ การเลี้ยงปลาในกระชังและการทอผ้าเกาะยอ
- 12.30 น. รับประทานอาหาร ร้านอิสลาม ณ สิงหนคร
- 13.00 น. ชมสุสานสุลต่านสุไลมาน ณ มรหุ่ม ที่ฝังศพของสุลต่านสุไลมาน เป็นที่รู้จักกันในนามของ "ทวดหุ่มหรือมรหุ่ม" ประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม ให้ความเคารพนับถือกันมากในฐานะที่เป็นทวดหรือเทวดา
- 15.00 น. เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์คติชนศึกษา ของสถาบันทักษิณศึกษา แหล่งรวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้ ประวัติศาสตร์และเรื่องราวของผู้คนในภาคใต้ ตั้งอยู่ บริเวณใกล้เชิงสะพานติณสูลานนท์ช่วงที่ 2 สถาบันตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2521 เพื่อศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ มีพื้นที่ทั้งหมด 23 ไร่ ลักษณะของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบภาคใต้ แบ่งออกเป็น 4 อาคาร โดยแต่ละอาคารจะแบ่งออกเป็นห้อง ๆ แสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ โบราณวัตถุที่เกิดจากภูมิปัญญา ของคนในท้องถิ่น เครื่องประดับศาตราวุธที่ใช้กันในภาคใต้ เช่น กริช มีดชายธง มีดหางไก่ แสดงผ้าทอพื้นเมือง เช่น ผ้าทอพุมเรียง ผ้าทอปัตตานี ห้องแสดงกระต่ายขูดมะพร้าวรูปทรงต่าง ๆ ที่มีรูปแบบหาชมได้ยากห้องแสดงการละเล่นพื้นเมือง เช่น หนังตะลุง โนรา ลิเกป่า ห้องแสดงวิถีชีวิตชาวใต้ เช่น การแสดงการละเล่นและของเล่นเด็กเช่น การเล่นซัดราว การเล่นว่าว ลูกข่าง ห้องแสดงประเพณีการบวชห้องแสดงการรักษาพยาบาลแบบโบราณสถาบันมีห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยวห้องสัมมนา และร้านขายสินค้าพื้นเมือง เช่น หัตถกรรมกระจูด หัตถกรรมปาหนัน หัตถกรรมย่านลิเพา ผ้าทอเกาะยอ ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว เครื่องเงิน เป็นต้น สถาบันได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประเภทแหล่งท่องเที่ยวดีเด่นทางวัฒนธรรมและ โบราณสถาน ปี 2543
- 17.00 น. ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเกาะยอ ก่อนเดินทางกลับ
- 18.00 น. เดินทางกลับที่พัก รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรมที่พัก จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สอง สงขลา – สตูล
- 08.00 น. เดินทางจากที่พัก เพื่อเยี่ยมชม
- 08.45 น. หาดสมิหลา หาดชลาทัศน์ ยามเช้า สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงของสงขลา อยู่ในเขตเทศบาลเมือง หาดสมิหลามีโขดหินขนาดย่อมยื่นลงทะเล หาดทรายขาวละเอียดมากที่เรียกว่า "ทรายแก้ว" มีป่าสนร่มรื่น จากหาดสมิหลาสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของ เกาะหนูเกาะแมว จนมีคำกล่าวว่าใครมาเยือนสงขลาแล้วไม่มาเยือนสมิหลาก็เหมือนมาไม่ถึงสงขลา มีสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงรูปปั้น นางเงือกทอง เมื่อมองออกไปในทะเลจะเห็น เกาะหนู เกาะแมวอันเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่ง หาดสมิหลาเป็นชายหาดที่มีบรรยากาศสงบ เหมาะสำหรับมาพักผ่อนชมวิว มีชายหาดต่อเนื่อง กัน เรียกว่าแหลมสนอ่อน อยู่เลยหาดสมิหลาไปทางตะวันตก ช่วงของแหลมสนอ่อนจะยาวไปจนถึงสันเขื่อนในทะเล
- 09.30 น. ชมบ้านเก่าโบราณ กำแพงเมืองสงขลา ย่านสงขลาเมืองเก่า ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง มีถนนสายสำคัญน่าเดินเที่ยว 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และ ถนนนางงาม เป็นถนนที่ประกอบไปด้วยอาคารและสถาปัตยกรรมที่งดงาม เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของชาวสงขลา ผ่านมุมมองทางสถาปัตยกรรม เมื่ออดีตราว 200 ปีก่อน ตัวเมืองสงขลาตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ เรียกว่า "เมืองสงขลา ฝั่งแหลมสน" ย่านเมืองเก่า สงขลา ปัจจุบันถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงามยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ มีห้องแถวไม้แบบจีน ตึกคลาสสิคสไตล์ ชิโนโปรตุกีส และยังมีอาคารตึกแถวแบบจีนโบราณของชาวจีนฮกเกี้ยนอยู่ปะปนกันทั้งสองฟากฝั่งถนน โดยอาคารหลายหลังมี การปรับปรุง ทาสีใหม่ แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอาคารอาคารเก่าเหล่านี้สะท้อนภาพการเป็นเมืองสำคัญด้านการปกครอง และทางเศรษฐกิจมา แต่ครั้งสมัยธนบุรีอีกทั้งการเป็นเมืองท่าติดทะเลทำให้ได้รับวัฒนธรรมจากหลากหลายเชื้อชาติ ผสมผสาน กันเป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัวแบบสงขลา ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินหรือสิ่งปลูกสร้าง
- 11.00 น. เยี่ยมชมมัสยิดกลางสงขลา มัสยิดดิย์นุลอิสลาม หรือเรียกสั้นๆว่า มัสยิดกลางสงขลา ตั้งอยู่ที่ ถนนลพบุรีราเมศวร์ อำเภอ หาดใหญ่ ศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิม ในสงขลา ต้องบอกว่าที่นี่เป็นมัสยิดที่ใหญ่และอลังการมากภายในตกแต่งได้สวยงาม โล่ง โอ่โถง เหมาะแก่การทำจิตใจให้สงบและทำพีธีกรรมต่างๆ ทางศาสนา มัสยิด กลางแห่งนี้โดดเด่นจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่อยู่บนภูเขาในสวนสาธารณะหาดใหญ่กันเลยทีเดียว หากใครได้มาจังหวัดสงขลาแล้ว ต้องไม่พลาดที่จะมาชมความงดงามของ มัสยิดกลางแห่งนี้ มัสยิดแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า " ทัชมาฮาลเมืองไทย " ยิ่งมาในช่วงเวลาเย็นค่ำมัสยิดเปิดไฟสว่างมีฉากหลังของ ท้องฟ้าเปลี่ยนสีในยามเย็นงดงามยิ่งนักจากนั้นเดินทางสู่ตัวเมืองหาดใหญ่
- 12.00 น. รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร ซามี่ คิสเช่น ตัวเมืองหาดใหญ่
- 13.00 น. เดินทางสู่ จ.สตูล
- 15.00 น. ชมย่านสตูลเมืองเก่า อาคารร้านค้าเป็นสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกิส ซึ่งในอดีตถนนสายนี้ได้ชื่อว่าเป็นย่านการค้าสำคัญ บุรีวานิชถือเป็นถนนสายแรกของเมือง “นครีสโตย” หรือเมืองสตูล ในอดีตเมืองสตูลมีความเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจดี มีการค้ารังนกและพริกไทย ซึ่งเป็นศูนย์การซื้อขายระหว่างปีนังและภูเก็ต จนทำให้เมืองสตูล ได้ชื่อว่า "นัครีสะโตยมัมบังสการา" (Negeri Setol Mum Bang Seagra) แปลเป็นภาษาไทยว่า เมืองแห่งพระสมุทรเทวา และเป็นหัวเมืองที่มีความสำคัญในยุคนั้นมาก
- 15.30 น. ชมคฤหาสน์กูเด็น รูปทรงอาคารสองชั้นสีขาว เป็นคฤหาสน์แบบสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ที่อายุยาวนานกว่าร้อยปี ประตูหน้าต่างรูปโค้งตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป หลังคาทรงปั้นหยาแบบไทยใช้กระเบื้องดินเผารูปกาบกล้วย บานหน้าต่างเป็นแผ่นไม้ชิ้นเล็ก ๆ เป็นเกล็ดแนวนอน ช่องลมด้านบนตกแต่งรูปดาวตามลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม อยู่ที่ถนนสตูลธานีซอย 5 สร้างตั้งแต่ปีพ.ศ.2441 โดย พระยาภูมินารถภักดี หรือ ตวนกูบาฮารุดดินบินตำมะหงง (ชื่อเดิม กูเด็น บินกูแม๊ะ) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองสตูลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คฤหาสน์นี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวคราวเสด็จปักษ์ใต้ แต่ไม่ได้ประทับแรม อาคารหลังนี้เคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดสตูล เป็นอาคารสวยงาม เชิดหน้าชูตาเมืองสตูลเป็นอย่างมาก และเคยเป็นสถานที่สำคัญๆ ของทางราชการ
- 16.00 น. ชมมัสยิดกลางสตูล ตั้งสง่าโดดเด่นด้วยหอคอยเป็นยอดโดมสูงสีทอง มัสยิดมำบังเป็นมัสยิดกลางตัวเมืองสตูล เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเป็นศูนย์รวมในการปฏิบัติศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมหอคอย หรือ หออาซาน ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของมัสยิด ซึ่งแต่เดิมไว้ใช้ตะโกนบอกให้มุสลิมละหมาด มัสยิดบำบัง มีชื่อเดิมว่า "มัสยิดเตองะห์" หรือ "มัสยิดอากีบี" ได้สร้างในสมัยเจ้าเมืองสตูลคนแรก ตัวอาคารแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนนอกเป็นระเบียง มีบันไดขึ้นหอคอย สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองสตูล และปฏิบัติศาสนกิจ
- 18.00 น. รับประทานอาหาร ร้านสุชาดา ในตัวเมืองสตูล ก่อนเข้าที่พัก
วันที่สาม สตูล – มาเลเซีย(กัวลาลัมเปอร์)
- 07.00 น. รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม จากนั้นเดินทางสู่ด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล สู่รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซียเพื่อเดินทางสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ต่อไป
- 12.00 น. รับประทานอาหาร ณ เมืองอิโปร์ รัฐเปรัค จากนั้นเดินทางต่อ
- 16.00 น. ถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ นำคณะชมมัสยิดกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และปฏิบัติศาสนกิจ ชมและถ่ายรูกับตึกปิโตรนัส (ตึกแฝด)เมอร์เดก้าสแควร์ สนามที่เคยใช้ในการประกาศอิสรภาพ จากการตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังฤกษ ชมอาคารสุลต่านอับดุลซามัท (เดิมเป็นที่ทำการของทหารอังฤกษ ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารมรดกโลกแล้ว)
- 18.00 น. รับประทานอาหาร จากนั้นเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สี่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ – เมืองปุตราจายา – เดินทางกลับ
- 07.00 น. รับประทานอาหาร จากนั้นนำคณะช้อปปิ้งของฝากพื้นเมืองของมาเลเซีย จากนั้น
- 08.30 น. เดินทางสู่เมืองปุตราจายา เมืองศูนย์บริหารแห่งใหม่ของมาเลเซีย
- 09.00 น. ชมสะพานปุตรา และทะเลสาบปุตรา อาคารรัฐสภา มัสยิดสีชมพู สร้างด้วยหินอ่อนที่สวยงาม
- 11.45 น. อาคารที่ทำการของกระทรวงต่างๆ
- 12.00 น. รับประทานอาหาร จากนั้นเดินทางกลับ
- 17.30 น. ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
***โปรแกรมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม***