search
z
ข้อมูล ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
ข้อมูลทั่วไป
เส้นทางท่องเที่ยวโดยนักวิจัย
สถานที่ท่องเที่ยว
ประเภทประวัติศาสตร์ และศาสนา
ประเภทศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณี
สันทนาการและการบันเทิง
เส้นทางท่องเที่ยวโดยทัวร์อื่นๆ
รายชื่อและที่ตั้งมัสยิด
รายชื่อมัสยิด
โรงแรม / ที่พัก
โรงแรม รีสอร์ท และสปา
โรงแรม / ที่พัก ฮาลาล
ร้านอาหาร
ร้านอาหาร
ร้านอาหารฮาลาล
ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
ศิลปะหัตถกรรม
ธุรกิจขนาดกลาง/ ขนาดย่อม
สิ่งอำนวยความสะดวก
สถานีตำรวจ
การคมนาคม
การเดินทางเข้าสู่ตำบล
 

 

 

 

 

เส้นทางที่ 8 ปัตตานี - เกาะปีนัง(เกาะหมาก) , เยือน 1 แผ่นดิน ถิ่น 3 วัฒนธรรม (ไทย จีน มลายู)-เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว - มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี - วัดมุจลินทวาปีวิหาร - น้ำตกทรายขาว - วัดราษฎร์บูรณะ - มัสยิดโบราณควนลังงา 300 ปี - เกาะปีนัง
 
 
ข้อมูลทั่วไป :

เส้นทางที่ 8 ปัตตานี - เกาะปีนัง(เกาะหมาก) , เยือน 1 แผ่นดิน ถิ่น 3 วัฒนธรรม (ไทย จีน มลายู)-เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว - มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี - วัดมุจลินทวาปีวิหาร - น้ำตกทรายขาว - วัดราษฎร์บูรณะ - มัสยิดโบราณควนลังงา 300 ปี - เกาะปีนัง

กำหนดการเดินทาง 3 วัน-2 คืน

วันแรก ปัตตานี - ถิ่นนี้มีมนต์ขลัง                                                            
08.30 น. คณะออกเดินทางที่พัก จากนั้นนำคณะเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวของ   จ.ปัตตานี
09.00 น. สักการะรูปเหมือนเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง กราบไหว้ขอพรจากเจ้าแม่  เป็นศาลที่ประดิษฐานรูปแกะสลัก ของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว พระหมอ เจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่เคารพสักการะของชาวจีนและชาวไทยโดยทั่วไปมาก ประวัติการสร้างหรือความเป็นมาของศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว มีการเล่าสืบต่อๆ กันมาเป็นตำนานที่เกี่ยวกับประวัติเมืองปัตตานี
10.00 น. ชมมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีนับว่าเป็นมัสยิดที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกรูปทรงคล้ายกับทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย ซึ่งสร้างในปี พ.ศ. 2497 ใช้เวลาดำเนินการสร้างประมาณ 9 ปี เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการประกอบ ศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกมีรูปทรงคล้ายกับทัชมาฮาลของอินเดีย ตรงกลางอาคารมียอดโดมขนาดใหญ่และมีโดมบริวาร 4 ทิศ มีหอคอยอยู่สองข้าง บริเวณด้านหน้ามัสยิดมีสระน้ำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ภายในมัสยิดมีลักษณะเป็นห้องโถง มีระเบียงสองข้างภายในห้องโถงด้านในมีบัลลังก์ทรงสูงและแคบ
10.30 น. เยี่ยมชมวัดมุจลินทวาปีวิหารหรือวัดตุยงนมัสการหลวงพ่อดำถือเป็นวัดเก่าแก่และวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดปัตตานี ศูนย์กลางการปกครองเมืองหนองจิกเดิม ซึ่งเป็นที่ตั้งจวนเจ้าเมืองและที่ว่าการของผู้ว่าราชการเมืองมาหลายสมัย วัดตุยงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งให้กำเนิดการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรมแห่งแรกของมณฑลปัตตานี จากการที่ วัดมุจลินทวาปีวิหาร ได้มีการปรับปรุงกิจการจนเกิดความรุ่งเรืองก้าวหน้า เป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั้งในและนอก ประเทศ จึงทรงมีพระราชกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดมุจลินทวาปีวิหารขึ้นเป็นพระอารามหลวงเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ 
11.00 น. จากนั้นเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว เดิมชาวบ้านเรียกว่า น้ำตกตะโกน มีต้นน้ำเกิดจากยอดเขานางจันทร์ในทิวเขาทรายขาว เทือกเขาสันกาลาคีรี ถูกค้นพบโดยพระครูศรีรัตนากร (ท่านสีแก้ว) อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาวมีพื้นที่ครอบคลุมป่าสงวนแห่งชาติเขา และป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาสันกาลาคีรี ประกอบด้วยจุดเด่นตามธรรมชาติและน้ำตกที่สวยงาม สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิดที่ควรแก่การศึกษาหาความรู้เป็นอย่างยิ่ง
12.00 น. รับประทานอาหาร ณ อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว จากนั้น
13.00 น. แวะสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม ณ ผาพญางู  แหล่ท่องเที่ยวใหม่บนน้ำตกทรายขาวมีลักษณะคล้ายงูใหญ่ ใจดีสื่อถึงความเมตตากรุณา โอบอ้อมอารี
14.00 น. แวะชมและเลือกซื้อสินค้า OTOP ของอำเภอโคกโพธิ์
15.00 น. เยี่ยมชมวัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างไห้)  เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี นมัสการหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนในภาคใต้   ตามตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว จึงได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมืองและไพร่พลเดินติดตามไป จนมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำจึงได้ถือเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แต่น้องสาวไม่ชอบ พระยาแก้มคำจึงให้สร้างวัด ณ บริเวณดังกล่าวแทน แล้วให้ชื่อว่า วัดช้างให้ แล้วนิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า ท่านลังกา หรือ สมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ท่านได้เดินธุดงค์ไปมา ระหว่างเมืองไทรบุรีกับวัดช้างให้ และได้สั่งลูกศิษย์ไว้ว่า ถ้าท่านมรณะภาพ ขอให้นำศพไปทำการฌาปนกิจ ณ วัดช้างให้ ซึ่งเมื่อท่านมรณะภาพที่เมืองไทรบุรี ลูกศิษย์ก็ได้นำศพท่านมา ทำการฌาปนกิจที่วัดช้างให้ อัฐิของท่านส่วนหนึ่งฝังไว้ที่วัดช้างให้ อีกส่วนหนึ่งนำกลับไปเมืองไทรบุรี ต่อมาได้สร้างสถูปบรรจุอัฐิของท่านไว้ที่วัดช้างให้
16.00 น. เยี่ยมชมถ่ายรูปกับมัสยิดโบราณควนลังงา 300 ปี ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ แห่งนี้จึงเกิดขึ้นด้วยความร่วมมือของพ่อท่านศรีแก้วกับโต๊ะอิหม่ามในยุคนั้น โดยสร้างแบบศิลปะประยุกต์ ผสมผสานระหว่างพุทธกับมุสลิม ภายในมีสถานที่ในการประกอบพิธีละหมาด แต่เมื่อมองจากภายนอกจะคล้ายคลึงกับโบสถ์ในศาสนาพุทธ
17.00 น. แวะชมและเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมของจังหวัดปัตตานี
18.00 น. บริการอาหาร จากนั้นกลับที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย  

วันที่สอง ปัตตานี - เกาะปีนัง                  
07.00 น. รับคณะ ณ โรงแรมที่พัก จากนั้นเดินทางสู่ชายแดนไทย - มาเลเซีย(ด่านสะเดา-จังโหลน)   
09.00 น. จากนั้นเดินทางสู่รัฐเคดาห์   เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ข้าว ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ทางการเกษตรที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของข้าว และรัฐเคดาห์เองถือเป็นรัฐที่มีการปลูกข้าวที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย 
10.00 น. จากนั้นแวะชมและถ่ายรูปกับพลับหลาที่ประทับของรัฐกาลที่ 5 สมัยที่เสด็จประพาสรัฐไทรบุรี(รัฐไทรบุรีเดิมเคยอยู่ภายใต้การปกครองของสยามมาก่อน) จากนั้นแวะละมาด ณ มัสยิด zahir ซึ่งเป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุด 
12.00 น. บริการอาหารแบบอิสลามพื้นเมืองมาเลเซีย
13.00 น. จากนั้นเดินทางสู่ เกาะปีนัง โดยสะพานที่ข้ามช่องแคบมะละกา ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก 
15.00 น. จากนั้นนำคณะชมเมืองปีนัง ชมอาคารบ้านเรือนที่ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกิส ซึ่งได้รับอิทธิพลสมัยที่โปรตุเกตุเข้าปกครองมาเลเซีย 
16.00 น. ชมป้อมปืนฟอร์ทคอนเวอร์ลลิส บริเวณหาดปีนัง 
16.30 น. นั่งรถชมหาดเกิร์ลนี่ 
18.00 น. บริการอาหาร  จากนั้นเข้าที่พัก..พักผ่อนตามอัธยาศัย 

วันที่สาม ปีนัง  - ปัตตานี       
07.00 น. บริการอาหาร  ณ โรงแรมที่พัก 
08.30 น. จากนั้นนำท่านเดินทางชมทัศนียภาพของเกาะปีนังโดยรอบ และเลือกซื้อของฝากจากปีนัง
12.00 น. บริการอาหาร 
13.00 น. จากนั้นเดินทางกลับ แวะชมและช้อปสินค้าปลอดภาษี ณ ร้านดิวตี้ฟรี
18.00 น. เดินทางถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ด้วยรอยยิ้มและความประทับใจ

***โปรแกรมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม***


 

 

แผนที่ :