กำหนดการเดินทาง 3 วัน 2 คืน
วันที่แรก หาดใหญ่ – เบตง
- 08.30 น. คณะเดินทางจากหาดใหญ่ สู่ อ.เบตง จังหวัดยะลา
- 12.00 น. ถึงเบตง บริการอาหาร ณ ร้านฮาลาล คิทเช่น เมืองเบตง และปฏิบัติภารกิจทางศาสนา จากนั้นนำคณะเดินทางสู่
- 13.30 น. วัดพุทธาธิวาส นมัสการพระมหาเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ พื้นที่ตั้งวัดเป็นเนินเขาสูงเอียงลาดลงไปทางทิศเหนือ จัดแบ่งพื้นที่วัดออกเป็นชั้นรวม ๕ ชั้น วัดพุทธาธิวาส ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขามีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศตั้งโดดเด่นมองเห็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์สวยงามมาก โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
- 14.30 น. เยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อของเบตง เช่น สมุนไพรเบตง รังนกเบตง ได้ตามอัธยาศัย
- 15.30 น. จากนั้นผ่อนคลายร่างกายด้วยธาราบำบัด ณ บ่อน้ำร้อนเบตง ได้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่งของเบตงที่มีน้ำพุเดือดขึ้นมาจากพื้นดินในหมู่บ้านจะเราะปะไร ตรงจุดบริเวณที่น้ำเดือดสามารถต้มไข่สุกภายใน 7 นาที มีบริการห้องอาบน้ำแร่ ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อนสามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อยและรักษาโรคผิวหนัง ลักษณะน้ำร้อนเบตง เดิมเป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ เป็นบ่อน้ำร้อนที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุมากมาย และมีสระน้ำขนาดใหญ่ไว้กักน้ำจากน้ำพุร้อนเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้อาบและแช่เท้าเล่น ซึ่งเชื่อว่าน้ำแร่ในน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคภัยได้เป็นอย่างดี เช่น โรคผิวหนัง โรคปวดเมื่อย โรคเหน็บชา
- 16.30 น. สัมผัสความสวยงามของไม้ดอกเมืองหนาวที่สวยงาม ณ โครงการไม้ดอกเมืองหนาว
- 17.30 น. บริการอาหาร ณ ครัวฮาลาล จากนั้นกลับที่พัก และปฏิบัติภารกิจทางศาสนา
วันที่สอง เบตง – อุโมงค์ปิยะมิตร - 07.30 น. บริการอาหาร ณ ที่พักจากนั้นนำคณะเดินทางสู่
- 08.30 น. อุโมงค์ปิยะมิตร ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการของโจรจีนคอมมิวนิสต์ในการหลบภัยทางอากาศ เมื่อปี พ.ศ. 2519 ก่อนที่จะเข้ามาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เป็นฝีมือของกลุ่มขบวนการโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา มีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้าง เพื่อใช้เป็นฐานปฏิบัติการเพื่อหลบภัยทางอากาศ และสะสมเสบียง ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยป่าทึบ ภายในอุโมงค์มีความกว้างพอคนเดินได้มีความยาวของอุโมงค์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ในอดีตมีททางเข้า-ออก 9 ทาง แต่ปัจจุบันเหลือ 6 ทาง โดยปัจจุบันยังคงมีกลิ่นอาย และร่องรอยของการดำรงชีวิตที่หลงเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่มีเตียงดินเหนียว ก่อติดกับผนังถ้ำ อุปกรณ์ในการสู้รบ อุปกรณ์ในการเดินป่า ห้องบัญชาการรบ ซึ่งจุคนได้ถึง 200 คน ภายนอกอุโมงค์ยังมีลานสำหรับฝึกกำลังพล และปัจจุบันยังมีอาคารจัดนิทรรสการวิถีการดำเนินชีวิตภายในป่าอันน่าตื่นใจ
- 10.30 น. และชมสวนการเพาะปลูกผักน้ำ ซึ่งเป็นผักที่มีชื่อเสียงของเมืองเบตง
- 11.30 น. บริการอาหาร ณ ร้านฮาลาล คิทเช่น จากนั้นให้คณะได้ปฏิบัติภารกิจทางศาสนา
- 13.30 น. เดินทางสู่ด่านพรมแดน ไทย(เบตง)-มาเลเซีย และบันทึกภาพเป็นที่ระลึกกับป้าย “ใต้สุดแดนสยาม”
- 14.00 น. บันทึกภาพกับ รูปไก่เบตง และนำชมศาลาภิรมย์ทัศน์ ถ่ายรูปมุมสูงของเมืองเบตง ที่โอบล้อมด้วยภูเขา ถ่ายรูปสนามกีฬากลางและรูปต้นไผ่ยักษ์
- 18.00 น. บริการอาหาร ณ ครัวฮาลาล จากนั้นเข้าสู่ที่พัก และปฏิบัติภารกิจทางศาสนา พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สาม เบตง – ยะลา – หาดใหญ่ (ช-ท)
- 07.30 น. บริการอาหาร ณ ที่พัก
- 08.30 น. จากนั้นนำคณะถ่ายรูปกับตู้ไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลก ชมและเลือกซื้อผักสดก่อนเดินทางกลับ
- 10.00 น. นำท่านเยี่ยมชมหอดูดวงจันทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดชมวิวของตำบลยะหา เป็นสถานที่สำหรับดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันเริ่มและสิ้นสุดของการถือศีลอดซึ่งเป็นข้อบัญญัติในศาสนาอิสลามเป็นประจำทุกปี ตั้งอยู่บริเวณภูเขาหลังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช พื้นที่ของอำเภอยะหา ในปี พ.ศ. 2481 สมัยหลวงรัชกาลประดิษฐ์ เป็นเจ้าเมืองยะลาและหมื่นเสนานุรักษ์ (ประดิษฐ์ ศุภอักษร) ได้กำหนดสถานที่ในการดูดวงจันทร์ ที่ศาลาดูดวงจันทร์ เขาปาเร๊ะ ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา
- 12.00 น. บริการอาหาร ณ ยะลาฮาลาลบุฟเฟต์ จ.ยะลา และปฏิบัติภารกิจทางศาสนา
- 13.30 น. จากนั้นเดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่ เพื่อเดินทางกลับที่หมาย และถึงที่หมายโดยวัสดิภาพด้วยรอยยิ้มและความประทับใจ
***โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม***
|