ข้อมูล 5 จังหวัดชายแดนใต้ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ประเภทแหล่งท่องเที่ยว
ข้อมูล ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ท่องเที่ยว
ประเภทธรรมชาติ
ประเภทประวัติศาสตร์ และศาสนา
ประเภทศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณี
การท่องเที่ยวโดยชุมชน
สันทนาการและการบันเทิง
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
เส้นทางท่องเที่ยวโดยทัวร์อื่นๆ
รายชื่อและที่ตั้งมัสยิด
โรงแรม / ที่พัก
โรงแรม รีสอร์ท และสปา
ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
อาหารและเครื่องดื่ม
เครื่องประดับ
ธุรกิจขนาดกลาง/ ขนาดย่อม
กลุ่มอาชีพ / สินค้า
สิ่งอำนวยความสะดวก
สถานีตำรวจ
โรงพยาบาล
การคมนาคม
การเดินทางเข้าสู่ตำบล
 

 

 

 

 

เที่ยวหาดใหญ่ 1 วัน ตะลุยเมืองน้ำแข็ง นั่งกระเช้าลอยฟ้า ชมมัสยิดกลาง
 
 
ข้อมูลทั่วไป :

หาดใหญ่ เมืองคุ้นเคยของฉันมาเป็นเวลาเนิ่นน่าน มาหาดใหญ่มาทำอะไร ส่วนใหญ่ก็จะแวะตลาดกิมหยงซื้อของฝากแล้วกลับ  แล้วถ้ามีเวลาอยู่ในเมืองหาดใหญ่  1 วัน จะแวะไปเที่ยวที่ไหนดี  ไปด้วยกันจะพาไปเที่ยวยังสถานที่ที่เรียกได้ว่าขึ้นชื่อของหาดใหญ่  เป็น a must ที่ไม่ควรพลาด มาแล้วต้องแวะ  อันดับแรกมุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ สวนสาธารณะนี้นอกจากเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแล้วยังได้ชื่อว่าเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังถึง 2 แห่ง นั่นก็คือ  เมืองน้ำแข็ง และเคเบิ้ลคาร์หรือกระเช้าลอยฟ้า นั่นเอง

เมื่อมาถึงสวนสาธารณะหาดใหญ่ จุดแรกที่เราเดินทางไปนั้นก็คือ เคเบิ้ลคาร์ ต้องขึ้นไปยังยอดเขาคอหงส์ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะ การเดินทางหากใครไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถนั่งรถสองแถวจากในตัวเมืองที่เขียนว่ามาสวนสาธารณะหรือจะเหมาตุ๊กมาก็ได้ จากนั้นก็มาต่อรถรางเพื่อขึ้นไปยังสถานีเคเบิ้ลคาร์จากด้านล่างได้ค่ะ โดยรถรางจะจอดรอรับที่หน้าหาดใหญ่ไอซ์โดม  แต่สำหรับใครที่มีรถส่วนตัวเส้นทางขึ้นไปถึงข้างบนถนนแอบชันเล็กน้อย แต่รถทุกชนิดขึ้นได้แบบสบายไม่มีปัญหาเพราะเส้นทางถนนอย่างดี 

กระเช้าลอยฟ้าหาดใหญ่  คือ กระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของประเทศไทย เป็นเส้นทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคอหงส์จากพระพุทธมงคลมหาราชคือสถานีที่ 1 ไปยังท้าวมหาพรหม สถานีที่ 2  รวมระยะทาง 535 เมตร ซึ่ง ระหว่างทางจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามจากยอดเขามองลงสู่เบื้องล่าง เห็นเมืองหาดใหญ่และทะเลสาบสงขลา โดยจะเลือกขึ้นที่สถานใดเป็นจุดเริ่มต้นก็ได้ เราเริ่มจากสถานีท้าวมหาพรมหม มาถึงด้านหน้าสถานีเห็นป้ายชื่อเคเบิ้ลคาร์โดดเด่น 

ก่อนขึ้นเคเบิ้ลคาร์ก็ต้องสักการะท้าวมหาพรมหมซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานีเพื่อความเป็นสิริมงคล

จุดจำหน่ายตั๋วค่าบริการ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน 150 ซ.ม.) 50 บาท  เด็กสวมเครื่องแบบนักเรียน/นักศึกษา และผู้ใหญ่สวมเครื่องแบบข้าราชการ 50 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท ราคาตั๋วเป็นราคาสำหรับนั่งไป-กลับโดยกระเช้า  1 เที่ยวนั่งได้ 8 คน

 
ฝั่งตรงข้ามคือสถานีที่เราจะนั่งเคเบิ้ลคาร์ข้ามไป นั่นก็คือ สถานีพระพุทธมงคลมหาราช  โดยมีกระเช้าไฟฟ้าที่กลับมาจากฝั่งนั้น สวนกันไปมาตลอด เส้นทางที่เคเบิ้ลคาร์วิ่งผ่านเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองหาดใหญ่ได้โดยรอบและพื้นที่ผ่านก็เป็นป่าไม้ร่มรื่นเขียวขจี

ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็มาถึงสถานี พระพุทธมงคลมหาราช ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาคอหงษ์ ภายในสถานนีนี้มีร้านกาแฟสำหรับนั่งผ่อนคลายรับลมชมวิวด้วย

นอกจากนี้สถานนีนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธมงคลมหาราช  พระพุทธรูปทองเหลือง สูง 19.90 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในภาคใต้  มีความหมายว่า “ความเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่” เป็นการก่อสร้างขึ้นด้วยจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา และได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า “พระพุทธมงคลมหาราช”

มีจุดชมวิวสำหรับยืนชมทิวทัศน์ของหาดใหญ่ได้โดยรอบหากมาในช่วงเย็นก็จะได้เห็นบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกดินที่เมืองหาดใหญ่อีกด้วย  จากจุดชมวิวสามารถเห็น มัสยิดกลางหาดใหญ่ สวยงามโดดเด่น มาแต่ไกล  หลังจากชมวิวกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ได้เวลานั่งเคเบิ้ลคาร์กลับไปยังสถานีเดิม คือ สถานีท้าวมหาพรมหม 

เขาคอหงส์ นอกจากจะมีที่เที่ยวไฮไลต์ของเมืองหาดใหญ่ตั้งอยู่แล้ว ยังมีร้านอาหารแนะนำแสนอร่อยที่มาถึงแล้วไม่ควรพลาดแวะมาทานนั่นก็คือ ร้านอาหารบนเขา  เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อที่เปิดมามากกว่า 20 ปีตั้งอยู่บนเขาในเขตสวนสาธารณะไม่ไกลจากหาดใหญ่เคเบิ้ลคาร์

สัมผัสอากาศในแบบอุณหภูมิปกติกันแล้วมาสัมผัสบรรยากาศในแบบหนาวสุดขั้วกันบ้างดีกว่า ลงจากเขามายังด้านล่างของสวนสาธารณะหาดใหญ่ เราจะเห็นที่ตั้งของหาดใหญ่ไอซ์โดม หรือเมืองหิมะน้ำแข็ง อันขึ้นลือชื่อของหาดใหญ่ หาดใหญ่ไอซ์โดม ให้บริการทุกวัน จันทร์ – พฤหัส 10.00-18.00 น.  ศุกร์ – อาทิตย์ 10.00 – 20.00 น. โดยเสียค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน150 ซ.ม.) 100 บาท โดยมีเสื้อหนาวและถึงมือให้ฟรี แต่สำหรับใครที่ต้องการอุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับถ่ายรูปเก๋ให้เข้ากับบรรยากาศสามารถเช่าจากร้านค้าด้านอกได้ มให้เลือกหลากหลายแบบทั้งถุงมือ รองเท้า แนะนำสำหรับใครที่ต้องการมาเที่ยวที่นี่ให้ใส่กางเกงขายาวและจะให้ดีไม่ควรใส่รองเท้าแตะเข้าไปนะค่ะ แนะนำควรเป็นรองเท้าผ้าใบจะดีที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นเท้าอาจแข็งจนถึงขั้นเจ็บเลยทีเดียว หรืออาจจะทำให้ชมปฎิมากรรมน้ำแข็งแบบชมไปหนาวไปทำให้เดินชมได้ไม่นานก็ต้องรีบออกมาน่าเสียดายค่ะ  ก่อนเช้าชมก็ต้องมาเข้าห้องปรับอุนหภูมิกันก่อนประมาณ  5 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพกับความหนาวในเบื้องต้น เพราะข้างในหนาวมากอุณหภูมิติดลบ เลยทีเดียว

หลังจากได้ยืนมองมองจากยอดเขาคอหงส์เห็นอยู่ไกลๆ มาสัมผัสของจริงยังสถานที่สุดท้ายที่ มัสยิดกลางดิย์นุลอิสลาม สงขลา  ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนลพบุรีราเมศวร์  ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่  ตั้งอยู่ออกนอกเมืองหาดใหญ่เล็กน้อย

ชาวสงขลามีคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามคนข้างเยอะ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะพบเห็นมัสยิดตั้งอยู่หลายแห่ง  มัสยิดกลางถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิม ในสงขลา ต้องบอกว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่และอลังการ ภายในตกแต่งได้สวยงาม โล่ง โอ่โถง เหมาะแก่การทำจิตใจให้สงบและทำพีธีกรรมต่างๆ ทางศาสนา

ใครได้มาจังหวัดสงขลาแล้ว ต้องไม่พลาดที่จะมาชมความงดงาม  มัสยิดแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า ทัชมาฮาลเมืองไทย  หากมาในช่วงเวลาเย็นค่ำมัสยิดเปิดไฟสว่างมีฉากหลังของ ท้องฟ้าเปลี่ยนสีในยามเย็นงดงามยิ่งนัก น่าเสียดายมาที่เราต้องรีบกลับในตอนเย็น พลาดโอกาสในการเก็บภาพยามค่ำคืน 

หาดใหญ่ อำเภอเล็กมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ที่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวกันได้ทั้งปี  มาถึงหาดใหญ่แล้วอย่าเพียงแค่แวะช๊อปปิ้งที่ตลาดกิมหยงเพียงอย่างเดียวลองจัดเวลาแวะมาเที่ยวสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทยกันซักนิด รับรองจะทำให้ความรู้สึกของการมาหาดใหญ่ของคุณเปลี่ยนไป ที่นี่ไม่ได้เพียงแค่เมืองแห่งการช้อปปิ้งแต่ยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมาย


-----------------------
(ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก เว็บไซต์ www.paiduaykan.com)

 

 

แผนที่ : 
 

 

 

 

   
หน้าหลัก | ข้อมูล 5 จังหวัดชายแดนใต้ | เส้นทางท่องเที่ยวอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | เส้นทางท่องเที่ยว 5 จังหวัดชายแดนใต้ | รายงานสรุปแต่ละจังหวัด
 
ผู้รับผิดชอบแผนงานวิจัย
รองศาสตราจารย์ ดร.ศรัณยา บุนนาค คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
181 ถนนเจริญประดิษฐ์ หมู่ที่ 6 ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 94000
มือถือ 081-6980383 โทรศัพท์ +66-73-313-929 Fax+ 66-73-312-232
E-mail Address : saranya.b@psu.ac.th; bsaranya70@hotmail.com
---------------------
Developed and Designed by ME-FI dot com