ข้อมูล 5 จังหวัดชายแดนใต้ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ประเภทแหล่งท่องเที่ยว
ข้อมูล ตำบลตันหยงลุโละ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่ท่องเที่ยว
ประเภทธรรมชาติ
ประเภทประวัติศาสตร์ และศาสนา
ประเภทศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณี
การท่องเที่ยวโดยชุมชน
การท่องเที่ยวเชิงเกษตร
เส้นทางท่องเที่ยวโดยทัวร์อื่นๆ
รายชื่อและที่ตั้งมัสยิด
รายชื่อมัสยิด
ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
อาหารและเครื่องดื่ม
ศิลปะหัตถกรรม
การคมนาคม
การเดินทางเข้าสู่ตำบล
 

 

 

 

 

สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
 
 
ข้อมูลทั่วไป :

สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว  ตั้งอยู่ที่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลุโละ อำเภอเมือง ตามทางหลวงหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ใกล้กับมัสยิดกรือเซะ มีตำนานเล่าว่าลิ้มกอเหนี่ยวได้ลงเรือสำเภามาตามพี่ชายชื่อลิ้มโต๊ะเคี่ยม ซึ่งมาแต่งงานกับธิดาพระยาตานี และได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามกลับประเทศจีนไม่สำเร็จ จึงได้ผูกคอตายที่ต้นมะม่วงหิมพานต์ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจึงได้ฝังศพลิ้มกอเหนี่ยวไว้ที่นี่ ต่อมาชาวปัตตานี นำต้นไม้ที่ลิ้มกอเหนี่ยวผูกคอตายมาแกะเป็นรูปบูชาและสร้างศาลเจ้าขึ้น

เรื่องเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นตำนานที่เล่ากันมาหลายร้อยปี ศาลที่ประดิษฐานรูปสลักเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยว ปัจจุบันตั้งอยู่กลางเมืองปัตตานี ชาวบ้านเรียก ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ตำนานเกี่ยวกับศาลเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวมีว่า แต่เดิมนั้นเมืองปัตตานีเรียกว่า เมืองตานี เป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง มีเรือสำเภานำสินค้าจากต่างเมืองมาค้า ขายและขนถ่ายสินค้าเป็นประจำ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมเป็นพ่อค้าหนุ่มชาวจีนนำเรือสำเภาไปค้าขายตามเมืองต่างๆ ได้แวะมาที่เมืองตานี และนำสินค้าเครื่องบรรณาการไปมอบให้เจ้าเมืองตานี จึงได้มีโอกาสพบธิดาเจ้าเมืองซึ่งมีรูป โฉมงดงาม ลิ่มโต๊ะเคี่ยมเกิดหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ส่วนนางก็มีใจตรงกัน ติดขัดอยู่ที่ว่าฝ่ายชายเป็นคนต่างชาติ ต่างศาสนา บิดาของนางจึงขอให้ลิ้มโต๊ะเคี่ยมเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ตามอย่างนาง ซึ่งลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็ยินยอมโดยได้ส่งเรือสำเภาให้เดินทางกลับไปส่งข่าวให้มารดาทราบว่าตนจะตั้งหลักแหล่งอยู่ที่เมืองตานี ไม่กลับไปเมืองจีนอีก เมื่อมารดาทราบข่าวก็เศร้าโศกเสียใจมาก นางลิ้มกอเหนี่ยวผู้เป็นน้องสาวจึงตัดสินใจเดินทางมาหาพี่ชายเพื่อขอร้องให้กลับไปเยี่ยมมารดา

เมื่อลิ้มกอเหนี่ยวมาที่เมืองตานี ก็พบว่าพี่ชายได้เข้ารีตนับถือศาสนาอิสลาม และกำลังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยเจ้าเมืองตานีก่อ สร้างมัสยิดหลังใหญ่เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานทางศาสนาซึ่งนางเห็นว่าเป็นความผิดอย่างมหันต์ เพราะจะทำให้วิญญาณของบรรพ บุรุษต้องเสียใจที่ลูกหลานนอกรีตนอกรอย นางพยายามขอให้พี่ชายวางมือจากการก่อสร้าง แต่ลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็ไม่ยอมฟังเสียง ในที่สุดนางลิ้มกอเหนี่ยวก็ลั่นวาจาสาปแช่งขออย่าให้พี่ชายสร้างมัสยิดได้สำเร็จได้ แล้วคืนนั้นเองนางก็ตัดสินใจผูกคอตายกับกิ่งมะม่วงหิมพานต์ที่ตรงหน้ามัสยิดที่กำลังก่อสร้างนั้น เมื่อลิ่มโต๊ะเคี่ยมรู้ก็เศร้าโศกเสียใจ และได้จัดการ ฝังศพนางไว้ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ต้นนั้น

หลังจากทำศพน้องสาวเสร็จ ลิ่มโต๊ะเคี่ยมก็พยายามสร้างมัสยิดต่อไป โดยเจตนาให้เป็นอนุสรณ์แก่น้องสาวด้วยแต่ปรากฏว่าเมื่อสร้างไปถึงยอดโดมอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญก็เกิดเหตุอัศจรรย์ฟ้าผ่าลงตรงกลางทำให้ยอดโดมพังทลายลงมา ครั้งแรกยังไม่มี ใครคิดเป็นอย่างอื่นนอกจากเห็นว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติและลงมือสร้างต่อไปใหม่ แต่พอสร้างถึงยอดโดมก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาเป็นครั้งที่สอง ทำให้ยอดโดมพังทลายลงไปอีก ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจึงนึกถึงคำสาปแช่งของนางลิ้มกอเหนี่ยวขึ้นมาได้และสั่งให้คนวางมือจากการก่อสร้างทั้งๆที่สร้างเสร็จแล้วเป็นส่วนมากเหลืออยู่แต่เพียงยอดโดมที่เป็นสัญลักษณ์ของมัสยิดเท่านั้น

มีเรื่องเล่าว่า เมื่อประมาณร้อยปีมานี้ มีผู้พยายามสร้างยอดโดมต่อ แต่ก็ประสบเหตุอาถรรพ์เช่นเดิมอีก กล่าวคือเกิดฟ้าผ่าลงมาตรงกลางครั้งที่สาม เป็นเหตุให้ผู้คนเชื่อว่าเป็นเพราะคำสาปแช่งของนางลิ่มกอเหนี่ยวนั่นเอง ในปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้ยังคงเหลือโครงร่างอยู่เช่นเดิม ที่บ้านกรือเซะ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร และหลุมศพของนางลิ่มกอเหนี่ยวก็ยังคงปรากฏอยู่เช่นกัน

เรื่องเมืองปัตตานีสร้างมัสยิดไม่สำเร็จเพราะคำสาปแช่งของนางลิ่มกอเหนี่ยวได้แพร่สะพัดไปทั่ว ต่างก็ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และอาถรรพ์ของคำสาป หลุมศพของนางลิ้มกอเหนี่ยวจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีคนไปกราบไหว้ไม่ขาด และเชื่อกันว่าเป็นหลุมศพของเจ้าแม่ เมื่อมีเรื่องทุกข์ร้อนก็พากันไปบนบานศาลกล่าวขอให้เจ้าแม่ช่วยเหลือ และก็ปรากฏว่าสัมฤทธิผลไปตามๆกันคน จึงพากันนับถือมากขึ้นทุกที

ต่อมามีชาวจีนคนหนึ่งได้ตัดกิ่งมะม่วงหิมพานต์ที่นางลิ่มกอเหนี่ยวผูกคอตายนำไปแกะสลักเป็นรูป เหมือนของนางและสร้างศาลเล็กๆ ขึ้นไว้ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์นั้น นำรูปแกะสลักไปประดิษฐานไว้ให้คนไปเคารพบูชา

เมื่อไม่นานมานี้เอง ชาวจีนในจังหวัดปัตตานีส่วนมากมีความเห็นว่า ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นที่เคารพบูชาของคนทั่วไป ด้วยถือว่าเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ แต่ศาลนั้นตั้งอยู่ไกลจากตัวเมือง ไม่สะดวกแก่การประกอบพิธีบวงสรวง จึงได้ร่วมมือกันสร้างศาลเจ้าแห่งใหม่ขึ้นที่ตัวเมืองปัตตานี คือศาลเจ้าเล่งจูเกียง และอัญเชิญรูปสลักเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวมาประดิษฐานที่ศาลเจ้าแห่งใหม่ และยังคงเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปตราบจนทุกวันนี้

 

 

แผนที่ : 
 

 

 

 

   
หน้าหลัก | ข้อมูล 5 จังหวัดชายแดนใต้ | เส้นทางท่องเที่ยวอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | เส้นทางท่องเที่ยว 5 จังหวัดชายแดนใต้ | รายงานสรุปแต่ละจังหวัด
 
ผู้รับผิดชอบแผนงานวิจัย
รองศาสตราจารย์ ดร.ศรัณยา บุนนาค คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
181 ถนนเจริญประดิษฐ์ หมู่ที่ 6 ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 94000
มือถือ 081-6980383 โทรศัพท์ +66-73-313-929 Fax+ 66-73-312-232
E-mail Address : saranya.b@psu.ac.th; bsaranya70@hotmail.com
---------------------
Developed and Designed by ME-FI dot com