ข้อมูล 5 จังหวัดชายแดนใต้ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ประเภทแหล่งท่องเที่ยว
ข้อมูล ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
ข้อมูลทั่วไป
เส้นทางท่องเที่ยวโดยนักวิจัย
สถานที่ท่องเที่ยว
ประเภทประวัติศาสตร์ และศาสนา
ประเภทศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณี
การท่องเที่ยวโดยชุมชน
สันทนาการและการบันเทิง
เส้นทางท่องเที่ยวโดยทัวร์อื่นๆ
รายชื่อและที่ตั้งมัสยิด
รายชื่อมัสยิด
โรงแรม / ที่พัก
โรงแรม รีสอร์ท และสปา
คอนโด อพาร์ทเม้นต์ และแมนชั่น
กระท่อม และบังกะโล
ร้านอาหาร
ร้านอาหาร
ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
อาหารและเครื่องดื่ม
ศิลปะหัตถกรรม
เครื่องประดับ
เครื่องนุ่งห่ม
ธุรกิจขนาดกลาง/ ขนาดย่อม
กลุ่มอาชีพ / สินค้า
สิ่งอำนวยความสะดวก
สถานีตำรวจ
โรงพยาบาล
บริษัททัวร์
การคมนาคม
การเดินทางเข้าสู่ตำบล
 

 

 

 

 

เส้นทางที่ 7วังประจัน เมืองชายแดนการค้า – กรุงกัวลา เมืองท่า เศรษฐกิจ คฤหาสน์กูเด็น – มัสยิดมำบัง – ชุมชนหัวทางและชุมโคกพะยอม – ด่านวังประจัน อุทยานแห่งชาติทะเลบัน – น้ำตกวังสายทอง – ถ้ำภูผาเพชร – กรุงกัวลาลัมเปอร์ - เมืองปุตราจายา
 
 
ข้อมูลทั่วไป :

กำหนดการเดินทาง4 วัน 3 คืน

วันแรก สตูล ซิตี้ ทัวร์ เที่ยววัฒนธรรมและชุมชนในเมืองสตูล

  • 08.00 น. คณะเดินทางออกจากที่พักจังหวัดสตูล จากนั้น
  • 08.30 น. เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ คฤหาสน์กูเด็นเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองสตูล รูปทรงอาคารสองชั้นสีขาว เป็นคฤหาสน์แบบสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ที่อายุยาวนานกว่าร้อยปี ประตูหน้าต่างรูปโค้งตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป หลังคาทรงปั้นหยาแบบไทยใช้กระเบื้องดินเผารูปกาบกล้วย  บานหน้าต่างเป็นแผ่นไม้ชิ้นเล็ก ๆ เป็นเกล็ดแนวนอน ช่องลมด้านบนตกแต่งรูปดาวตามลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม อยู่ที่ถนนสตูลธานีซอย 5 สร้างตั้งแต่ปีพ.ศ.2441 โดย พระยาภูมินารถภักดี หรือ ตวนกูบาฮารุดดินบินตำมะหงง (ชื่อเดิม กูเด็น บินกูแม๊ะ) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองสตูลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คฤหาสน์นี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวคราวเสด็จปักษ์ใต้ แต่ไม่ได้ประทับแรม  อาคารหลังนี้เคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดสตูล เป็นอาคารสวยงาม เชิดหน้าชูตาเมืองสตูลเป็นอย่างมาก และเคยเป็นสถานที่สำคัญๆ ของทางราชการ
  • 09.30 น. มัสยิดมำบัง มัสยิดประจำจังหวัด ตั้งสง่าโดดเด่นด้วยหอคอยเป็นยอดโดมสูงสีทอง  มัสยิดมำบังเป็นมัสยิดกลางตัวเมืองสตูล เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเป็นศูนย์รวมในการปฏิบัติศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมหอคอย หรือ หออาซาน ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของมัสยิด ซึ่งแต่เดิมไว้ใช้ตะโกนบอกให้มุสลิมละหมาด มัสยิดบำบัง  มีชื่อเดิมว่า "มัสยิดเตองะห์" หรือ "มัสยิดอากีบี" ได้สร้างในสมัยเจ้าเมืองสตูลคนแรก ตัวอาคารแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนนอกเป็นระเบียง มีบันไดขึ้นหอคอย สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองสตูล
  • 10.00 น. เยี่ยมชมสตูลย่านเมืองเก่า อาคารร้านค้าเป็นสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกิส ซึ่งในอดีตถนนสายนี้ได้ชื่อว่าเป็นย่านการค้าสำคัญ บุรีวานิชถือเป็นถนนสายแรกของเมือง “นครีสโตย” หรือเมืองสตูล ในอดีตเมืองสตูลมีความเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจดี มีการค้ารังนกและพริกไทย ซึ่งเป็นศูนย์การซื้อขายระหว่างปีนังและภูเก็ต  จนทำให้เมืองสตูล ได้ชื่อว่า "นัครีสะโตยมัมบังสการา" (Negeri Setol Mum Bang Seagra) แปลเป็นภาษาไทยว่า เมืองแห่งพระสมุทรเทวา และเป็นหัวเมืองที่มีความสำคัญในยุคนั้นมาก  
  • 11.30 น. เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่บ้านเกตรี - แวะเยี่ยมชม ศูนย์เผยแพร่โครงการเศรษฐกิจพอเพียง บ้านเกตรี หรือ "บูเกตรีบุตรี" แปลว่า "ลูกสาวเจ้าเมือง"" และต่อมาเพี๊ยนเป็น "บ้านเกตรี" ซึ่งลักษณะภูมิประเทศของ "บ้านเกตรี" ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่ม เหมาะแก่การทำนาและเพาะปลูก ที่ราบเชิงเขาเหมาะแก่การทำสวนยางพารา และสวนผลไม้ อาทิ เงาะ ทุเรียน ส้ม ลองกอง และมีแหล่งน้ำที่สำคัญ ทำให้มีน้ำใช้ตลอดปี  ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และภูมิปัญญาท้องถิ่น คือ การผลิตกาแฟโบราณ,  การทำขนมบุหงาปูดะ, ขนมปะการัง และขนมแนหรัม หรือขนมเจาะหู
  • 12.00 น. รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารครัวสุชาดา  ตัวเมืองสตูล 
  • 13.00 น. การเลี้ยงปูดำ ปูนิ่ม ธนาคารต้นไม้ ปลูกป่าชายเลน ที่ชุมชนหัวทางและชุมโคกพะยอม อ.เมือง แหล่งเรียนรู้เรื่องป่าชายเลนและการเลี้ยงปูดำ คือการบริหารจัดการสภาพป่าชายเลนให้เป็นแหล่งพันธ์ปูดำถาวรและมีการเลี้ยงปูดำให้เป็นสินค้าออกของชุมชนจนสามารถสร้างรายได้พิเศษไปจากงานปกติได้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง  ปูดำที่เลี้ยงนี้เมื่อลอกคราบเป็นตัวใหม่แล้วจะมีลักษณะกระดองนิ่มจนเรียกกันทั่วไปว่า ปูนิ่มพันธ์ของปูดำนั้นมาจากแหล่งธรรมชาติที่เป็นป่าชายเลน  ด้วยเหตุนี้ป่าชายเลนทุกแห่งตามชายทะเลจึงมีความสำคัญมากตรงที่เป็นแหล่งเพาะปูดำ  หอยและสัตว์น้ำต่างๆ    
  • 16.00 น. และถ่ายรูปชมวิวทิวทัศน์ที่ท่าเรือตำมะลัง อ.เมือง ซึ่งเป็นท่าเรือเชื่อมต่อไปเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย 
  • 18.00 น. ชิมโรตีชาชัก อาหารพื้นเมืองที่ลือชื่อของจังหวัดสตูล และเดินทางเข้าที่พัก 

วันที่สอง             สตูล - สัมผัสธรรมชาติบนฝั่งเมืองสตูล 

  • 08.00 น. เดินทางจากที่พักไป จากนั้นเดินทางสู่
  • 10.30 น. ด่านวังประจัน ซึ่งเป็นด่านเชื่อมต่อกับรัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย หากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีสินค้าทั้งสองประเทศมาจำหน่ายให้เลือกซื้อมากมาย 
  • 11.45 น. อุทยานแห่งชาติทะเลบัน อ.ควนโดน เดินป่าศึกษาธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ 
  • 12.30 น. รับประทานอาหาร   ณ อุทยานแห่งชาติทะเลบัน จากนั้นเดินทางต่อไป อ.มะนัง
  • 15.00 น. เที่ยวชมน้ำตกวังสายทอง น้ำตกหินปูนที่สวยงามดั่งสีทอง  น้ำตกวังสายทองเป็นน้ำตกชั้นหินปูนขนาดใหญ่เป็นชั้นน้อยชั้นใหญ่  ที่มีความสวยงามและมหัศจรรย์ที่น่าหลงใหล ซึ่งเป็นน้ำตกหินปูนแห่งแรกในภาคใต้ เดินแล้วไม่ลื่น พร้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ ที่หาดูยาก น้ำตกวังสายทองเป็นน้ำตกหินปูนที่มีแหล่งน้ำแต่ละชั้นไหลลดหลั่นกันมาไหลผ่านชั้นหินปูนสีเหลืองอร่ามดั่งทองกระทบกับแสงอาทิตย์ดูงดงามราวกับดอกบัว
  • 15.30 น. ชมถ้ำภูผาเพชร หลักฐานนักโบราณคดีได้ทำการสำรวจและได้สันนิษฐานว่า ถ้ำภูผาเพชรแห่งนี้น่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ประมาณ 3000 ปี  มาแล้ว ซึ่งได้พบหลักฐานทางโบราณคดี  กระดูกมนุษย์ยุคโบราณส่วนกระโหลกศรีษะ   พบเศษภาชนะดินเผาเคลือบลายเชือกทาบ  ที่ก้นภาชนะมีเปลือกหอยยึดเกาะ  หลังจากนั้นก็ได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชื่อเสียงตลอดมา ถ้ำภูผาเพชร เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ติดอันดับ 4  ของโลก  เนื้อที่กว้างขวางมโหฬารตระการตามาก  เพดานถ้ำสูงโปร่ง  ความงามของหินงอกหินย้อยที่มีหยดน้ำเกาะอยู่  เมื่อกระทบกับแสงไฟจะมีประกายวาวเหมือนเพชร  
  • 16.00 น. สนุกสนานกับการล่องแก่งวังสายทอง
  • 18.00 น. รับประทานอาหาร   ณ คุ้มราชา  เดินทางเข้าที่พัก

วันที่สาม สตูล – กรุงกัวลาลัมเปอร์

  • 08.00 น. รับประทานอาหาร
  • 09.00 น. จากนั้นเดินทางสู่ด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล สู่รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซียเพื่อเดินทางสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ต่อไป
  • 12.00 น รับประทานอาหาร ณ เมืองอิโปร์รัฐเปรัค จากนั้นเดินทางต่อ
  • 14.00 น. ถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ นำคณะชมมัสยิดกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และปฏิบัติศาสนกิจ
  • 15.00 น. ชมและถ่ายรูกับตึกปิโตรนัส (ตึกแฝด)
  • 16.00 น. ชมสนามที่เคยใช้ในการประกาศอิสรภาพ จากการตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของประเทศอังฤกษ (เมอร์เดก้าสแควร์)
  • 16.30 น. ชมอาคารสุลต่านอับดุลซามัท (เดิมเป็นที่ทำการของทหารอังฤกษ ปัจจุบันเป็นหอสมุดแห่งชาติ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารมรดกโลกแล้ว)
  • 18.00 น. รับประทานอาหาร จากนั้นเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สี่   กรุงกัวลาลัมเปอร์ – เมืองปุตราจายา – เดินทางกลับ

  • 07.30 น. รับประทานอาหาร จากนั้นนำคณะช้อปปิ้งของฝากพื้นเมืองของมาเลเซีย จากนั้น
  • 09.30 น. เดินทางสู่เมืองปุตราจายา เมืองศูนย์บริหารแห่งใหม่ของมาเลเซีย
  • 10.00 น. ชมสะพานปุตรา และทะเลสาบปุตรา
  • 10.30 น. อาคารรัฐสภา
  • 11.00 น. มัสยิดสีชมพู(มัสยิดแห่งใหม่ของมาเลเซีย) สร้างด้วยหินอ่อนที่สวยงาม
  • 11.30 น. อาคารที่ทำการของกระทรวงต่างๆ
  • 12.00 น. รับประทานอาหารอิสลาม  
  • 13.00 น. จากนั้นเดินทางกลับ
  • 18.00 น. ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ


***โปรแกรมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม***

 

 

แผนที่ : 
 

 

 

 

   
หน้าหลัก | ข้อมูล 5 จังหวัดชายแดนใต้ | เส้นทางท่องเที่ยวอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | เส้นทางท่องเที่ยว 5 จังหวัดชายแดนใต้ | รายงานสรุปแต่ละจังหวัด
 
ผู้รับผิดชอบแผนงานวิจัย
รองศาสตราจารย์ ดร.ศรัณยา บุนนาค คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
181 ถนนเจริญประดิษฐ์ หมู่ที่ 6 ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 94000
มือถือ 081-6980383 โทรศัพท์ +66-73-313-929 Fax+ 66-73-312-232
E-mail Address : saranya.b@psu.ac.th; bsaranya70@hotmail.com
---------------------
Developed and Designed by ME-FI dot com