กำหนดการเดินทาง4 วัน 3 คืน
วันแรก สตูล ซิตี้ ทัวร์ เที่ยววัฒนธรรมและชุมชนในเมืองสตูล
- 08.00 น. คณะเดินทางออกจากที่พักจังหวัดสตูล จากนั้น
- 08.30 น. เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ คฤหาสน์กูเด็นเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองสตูล รูปทรงอาคารสองชั้นสีขาว เป็นคฤหาสน์แบบสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ที่อายุยาวนานกว่าร้อยปี ประตูหน้าต่างรูปโค้งตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป หลังคาทรงปั้นหยาแบบไทยใช้กระเบื้องดินเผารูปกาบกล้วย บานหน้าต่างเป็นแผ่นไม้ชิ้นเล็ก ๆ เป็นเกล็ดแนวนอน ช่องลมด้านบนตกแต่งรูปดาวตามลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม อยู่ที่ถนนสตูลธานีซอย 5 สร้างตั้งแต่ปีพ.ศ.2441 โดย พระยาภูมินารถภักดี หรือ ตวนกูบาฮารุดดินบินตำมะหงง (ชื่อเดิม กูเด็น บินกูแม๊ะ) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองสตูลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คฤหาสน์นี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวคราวเสด็จปักษ์ใต้ แต่ไม่ได้ประทับแรม อาคารหลังนี้เคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดสตูล เป็นอาคารสวยงาม เชิดหน้าชูตาเมืองสตูลเป็นอย่างมาก และเคยเป็นสถานที่สำคัญๆ ของทางราชการ
- 09.30 น. มัสยิดมำบัง มัสยิดประจำจังหวัด ตั้งสง่าโดดเด่นด้วยหอคอยเป็นยอดโดมสูงสีทอง มัสยิดมำบังเป็นมัสยิดกลางตัวเมืองสตูล เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเป็นศูนย์รวมในการปฏิบัติศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมหอคอย หรือ หออาซาน ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของมัสยิด ซึ่งแต่เดิมไว้ใช้ตะโกนบอกให้มุสลิมละหมาด มัสยิดบำบัง มีชื่อเดิมว่า "มัสยิดเตองะห์" หรือ "มัสยิดอากีบี" ได้สร้างในสมัยเจ้าเมืองสตูลคนแรก ตัวอาคารแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนนอกเป็นระเบียง มีบันไดขึ้นหอคอย สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองสตูล
- 10.00 น. เยี่ยมชมสตูลย่านเมืองเก่า อาคารร้านค้าเป็นสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกิส ซึ่งในอดีตถนนสายนี้ได้ชื่อว่าเป็นย่านการค้าสำคัญ บุรีวานิชถือเป็นถนนสายแรกของเมือง “นครีสโตย” หรือเมืองสตูล ในอดีตเมืองสตูลมีความเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจดี มีการค้ารังนกและพริกไทย ซึ่งเป็นศูนย์การซื้อขายระหว่างปีนังและภูเก็ต จนทำให้เมืองสตูล ได้ชื่อว่า "นัครีสะโตยมัมบังสการา" (Negeri Setol Mum Bang Seagra) แปลเป็นภาษาไทยว่า เมืองแห่งพระสมุทรเทวา และเป็นหัวเมืองที่มีความสำคัญในยุคนั้นมาก
- 11.30 น. เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่บ้านเกตรี - แวะเยี่ยมชม ศูนย์เผยแพร่โครงการเศรษฐกิจพอเพียง บ้านเกตรี หรือ "บูเกตรีบุตรี" แปลว่า "ลูกสาวเจ้าเมือง"" และต่อมาเพี๊ยนเป็น "บ้านเกตรี" ซึ่งลักษณะภูมิประเทศของ "บ้านเกตรี" ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่ม เหมาะแก่การทำนาและเพาะปลูก ที่ราบเชิงเขาเหมาะแก่การทำสวนยางพารา และสวนผลไม้ อาทิ เงาะ ทุเรียน ส้ม ลองกอง และมีแหล่งน้ำที่สำคัญ ทำให้มีน้ำใช้ตลอดปี ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และภูมิปัญญาท้องถิ่น คือ การผลิตกาแฟโบราณ, การทำขนมบุหงาปูดะ, ขนมปะการัง และขนมแนหรัม หรือขนมเจาะหู
- 12.00 น. รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารครัวสุชาดา ตัวเมืองสตูล
- 13.00 น. การเลี้ยงปูดำ ปูนิ่ม ธนาคารต้นไม้ ปลูกป่าชายเลน ที่ชุมชนหัวทางและชุมโคกพะยอม อ.เมือง แหล่งเรียนรู้เรื่องป่าชายเลนและการเลี้ยงปูดำ คือการบริหารจัดการสภาพป่าชายเลนให้เป็นแหล่งพันธ์ปูดำถาวรและมีการเลี้ยงปูดำให้เป็นสินค้าออกของชุมชนจนสามารถสร้างรายได้พิเศษไปจากงานปกติได้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปูดำที่เลี้ยงนี้เมื่อลอกคราบเป็นตัวใหม่แล้วจะมีลักษณะกระดองนิ่มจนเรียกกันทั่วไปว่า ปูนิ่มพันธ์ของปูดำนั้นมาจากแหล่งธรรมชาติที่เป็นป่าชายเลน ด้วยเหตุนี้ป่าชายเลนทุกแห่งตามชายทะเลจึงมีความสำคัญมากตรงที่เป็นแหล่งเพาะปูดำ หอยและสัตว์น้ำต่างๆ
- 16.00 น. และถ่ายรูปชมวิวทิวทัศน์ที่ท่าเรือตำมะลัง อ.เมือง ซึ่งเป็นท่าเรือเชื่อมต่อไปเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย
- 18.00 น. ชิมโรตีชาชัก อาหารพื้นเมืองที่ลือชื่อของจังหวัดสตูล และเดินทางเข้าที่พัก
วันที่สอง สตูล - สัมผัสธรรมชาติบนฝั่งเมืองสตูล
- 08.00 น. เดินทางจากที่พักไป จากนั้นเดินทางสู่
- 10.30 น. ด่านวังประจัน ซึ่งเป็นด่านเชื่อมต่อกับรัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย หากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีสินค้าทั้งสองประเทศมาจำหน่ายให้เลือกซื้อมากมาย
- 11.45 น. อุทยานแห่งชาติทะเลบัน อ.ควนโดน เดินป่าศึกษาธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์
- 12.30 น. รับประทานอาหาร ณ อุทยานแห่งชาติทะเลบัน จากนั้นเดินทางต่อไป อ.มะนัง
- 15.00 น. เที่ยวชมน้ำตกวังสายทอง น้ำตกหินปูนที่สวยงามดั่งสีทอง น้ำตกวังสายทองเป็นน้ำตกชั้นหินปูนขนาดใหญ่เป็นชั้นน้อยชั้นใหญ่ ที่มีความสวยงามและมหัศจรรย์ที่น่าหลงใหล ซึ่งเป็นน้ำตกหินปูนแห่งแรกในภาคใต้ เดินแล้วไม่ลื่น พร้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ ที่หาดูยาก น้ำตกวังสายทองเป็นน้ำตกหินปูนที่มีแหล่งน้ำแต่ละชั้นไหลลดหลั่นกันมาไหลผ่านชั้นหินปูนสีเหลืองอร่ามดั่งทองกระทบกับแสงอาทิตย์ดูงดงามราวกับดอกบัว
- 15.30 น. ชมถ้ำภูผาเพชร หลักฐานนักโบราณคดีได้ทำการสำรวจและได้สันนิษฐานว่า ถ้ำภูผาเพชรแห่งนี้น่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ประมาณ 3000 ปี มาแล้ว ซึ่งได้พบหลักฐานทางโบราณคดี กระดูกมนุษย์ยุคโบราณส่วนกระโหลกศรีษะ พบเศษภาชนะดินเผาเคลือบลายเชือกทาบ ที่ก้นภาชนะมีเปลือกหอยยึดเกาะ หลังจากนั้นก็ได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชื่อเสียงตลอดมา ถ้ำภูผาเพชร เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลก เนื้อที่กว้างขวางมโหฬารตระการตามาก เพดานถ้ำสูงโปร่ง ความงามของหินงอกหินย้อยที่มีหยดน้ำเกาะอยู่ เมื่อกระทบกับแสงไฟจะมีประกายวาวเหมือนเพชร
- 16.00 น. สนุกสนานกับการล่องแก่งวังสายทอง
- 18.00 น. รับประทานอาหาร ณ คุ้มราชา เดินทางเข้าที่พัก
วันที่สาม สตูล – กรุงกัวลาลัมเปอร์
- 08.00 น. รับประทานอาหาร
- 09.00 น. จากนั้นเดินทางสู่ด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล สู่รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซียเพื่อเดินทางสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ต่อไป
- 12.00 น รับประทานอาหาร ณ เมืองอิโปร์รัฐเปรัค จากนั้นเดินทางต่อ
- 14.00 น. ถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ นำคณะชมมัสยิดกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และปฏิบัติศาสนกิจ
- 15.00 น. ชมและถ่ายรูกับตึกปิโตรนัส (ตึกแฝด)
- 16.00 น. ชมสนามที่เคยใช้ในการประกาศอิสรภาพ จากการตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของประเทศอังฤกษ (เมอร์เดก้าสแควร์)
- 16.30 น. ชมอาคารสุลต่านอับดุลซามัท (เดิมเป็นที่ทำการของทหารอังฤกษ ปัจจุบันเป็นหอสมุดแห่งชาติ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารมรดกโลกแล้ว)
- 18.00 น. รับประทานอาหาร จากนั้นเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สี่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ – เมืองปุตราจายา – เดินทางกลับ
- 07.30 น. รับประทานอาหาร จากนั้นนำคณะช้อปปิ้งของฝากพื้นเมืองของมาเลเซีย จากนั้น
- 09.30 น. เดินทางสู่เมืองปุตราจายา เมืองศูนย์บริหารแห่งใหม่ของมาเลเซีย
- 10.00 น. ชมสะพานปุตรา และทะเลสาบปุตรา
- 10.30 น. อาคารรัฐสภา
- 11.00 น. มัสยิดสีชมพู(มัสยิดแห่งใหม่ของมาเลเซีย) สร้างด้วยหินอ่อนที่สวยงาม
- 11.30 น. อาคารที่ทำการของกระทรวงต่างๆ
- 12.00 น. รับประทานอาหารอิสลาม
- 13.00 น. จากนั้นเดินทางกลับ
- 18.00 น. ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
***โปรแกรมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม***