วัดสมุหนิมิต |
|
วัดสมุหนิมิต ชาวบ้านเรียกว่า วัดล่าง อยู่ในตำบลพุมเรียง อำภอไชยาเป็นวัดใหญ่เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน ตามข้อความในศิลาจารึกที่ฝังไว้กับผนังในอุโบสถมีความว่าวัดสมุหนิมิต เดิมชื่อวัดรอ เจ้าพระยาพระคลัง เสนาบดีว่าที่กรมท่าพระกลาโหม ซึ่งเป็นต้นตระกูลของพระอภิรมยสินารักษ์ บุนนาค ออกมาสักเลกหัวเมืองปักษ์ใต้ เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๒ เห็นวัดรอรกร้างจึงได้สร้างขึ้นใหม่ และสร้างเสร็จภายในเวลาเพียง ๔ เดือน ขนานนามใหม่ว่า วัดสมุหนิมิต มีโบราณสถานที่สำคัญคือ อุโบสถ เป็น อุโบสถก่ออิฐถือปูนศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นด้านหน..
อ่านต่อ |
วัดอุบล (วัดนอก) |
|
วัดอุบล (วัดนอก) ท่านพุทธทาสบวชที่วัดอุบล หรือ วัดนอก แห่งนี้ ซึ่งท่านพุทธทาสได้อุปสมบทเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2469 ตอนนั้นมีพระครูโสภณเจตสิการาม (คง วิมโล) เป็นเจ้าอาวาสวัดอุบล รองเจ้าคณะเมือง สุราษฎร์ธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูคณานุกูล (ศักดิ์ ธมฺมขิโต) เจ้าอาวาสวัดหัวคู เป็นหมอยาแผนโบราณที่มีชื่อเสียงของชุมชน และพระปลัดทุ่ม ธมฺมโชติ ซึ่งเป็นพระที่คุ้นเคยกับครอบครัวพานิชเป็นอาจารย์กัมมัฏฐาน เป็นหมอดูที่ได้รับความเคารพนับถือของชาวบ้านในฐานะพระศักดิ์สิทธิเป็นพระ คู่สวดของโ..
อ่านต่อ |
วัดตระพังจิก |
|
วัดตระพังจิก เป็นสำนักปฏิบัติธรรมของท่านพุทธทาสโดยให้ชื่อว่า สวนโมกขพลาราม(แห่งแรก) เพราะบริเวณที่ตั้งมีต้นโมกและต้นพลาขึ้นทั่วไป มีความหมายว่า"สวนป่าอันเป็นกำลังแห่งความหลุดพ้นจากทุกข์"ต่อมาในปี ๒๔๘๖ สวนโมกขพลาราม ได้ย้ายมาอยู่ที่ วัดธารน้ำไหล หมู่ที่ ๖ ตำบลเลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณเขาพุทธทอง ริมทางหลวงหมายเลข ๔๑..
อ่านต่อ |
วัดโพธารามหรือวัดเหนือ |
|
วัดโพธารามหรือวัดเหนือ ชาวบ้านเรียกว่าวัดโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่มากเช่นกันแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างสมัยใด วัดนี้คู่กับวัดล่างหรือวัดสมุหนิมิต ตามประวัติวัดนี้มีเจ้านายชั้นสูงเคยมาเยือนเช่น สมเด็จ พระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์ เมื่อครั้ง พ.ศ.2427 และ รัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ.2432 ภายในวัดทีสถานที่สำคัญเช่น อุโบสถ เก่าแก่สร้างเมื่อไรไม่ทราบได้ บานประตูเป็นไม้แกะสลักสวยงามมาก ตู้พระธรรมลายรดน้ำเก่าแก่ หีบพระธรรมไม้ฉลุลาย ธรรมาสน์ไม้ทองบุษบก กล่องใส่คัมภีร์ใบลาน..
อ่านต่อ |
วัดพุมเรียง |
|
วัดพุมเรียง หรือ วัดใหม่เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมานานตั้งแต่ประมาณกรุงศรีอยุธยา และชำรุดทรุดโทรมลงเนื่องจากเกิดภาวะสงครามครั้งสงครามเก้าทัพ กองทัพพม่าบุกเข้ามา เมื่อประมาณปี พ.ศ.2328 หรือตอนช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น พม่าเข้ามาตีเมืองไชยา และเผาวัดวาอารามและพระอุโบสถ เป็นเหตุให้เกิดความเสีย ชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก ต่อมาเมื่อสงครามสงบชาวบ้านและพระภิกษุชื่อ อุ ได้เข้ามาบูรณะและสร้างพระอุโบสถขึ้นมาใหม่ และได้รับพระราชทานวิสงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2391 ภายในวัดมีของโบราณที่มีคุณค่าอยู่หลายอย่างเช่น หน้าซุ้มปร..
อ่านต่อ |
การทอผ้าไหมของบ้านพุมเรียง |
|
บ้านพุมเรียง เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ คนในหมู่บ้านส่วนมากเป็นคนมุสลิม นอกจากนี้มีคนจีน ไทยพุทธอาศัยปะปนอยู่ด้วย กลุ่มคนเหล่านี้มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมด้วยการแต่งงานกัน ประวัติ นักโบราณคดีเชื่อว่าบ้านพุมเรียงเป็นชุมชนเก่าแก่ย้อนหลังไปถึงสมัยอาณาจักรศรีวิชัย เนื่องจากอยู่ใกล้ท่าเรือของเมืองโบราณบริเวณแหลมโพธิ์ ซึ่งพบซากเรือโบราณและเครื่องถ้วยชามสมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์ซ้องจำนวนมาก สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอธิบายว่า “สมัยศรีวิชัย เมืองไชยาเป็นเมือโบราณที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุด เก่าแก่กว่าเมือง..
อ่านต่อ |
ชายหาดแหลมโพธิ์ |
|
ประวัติความเป็นมาอยู่ตำบลพุมเรียง ห่างจากตัวอำเภอ 6 กม. ผ้าไหมพุมเรียงเป็นผ้าไหมยกดิ้นเงิน หรือดิ้นทองสวยงาม เป็นสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลยจากหมู่บ้านไป 2 กท. ตามเส้นทาง พุมเรียง-ชายทะเล จะถึงแหลมโพธิ์ชายทะเลที่น่าเที่ยวแห่งหนึ่งของตำบลพุมเรียง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีใช้บริการรถโดยสารในเส้นทาง สายสุราษฎร์-ระนอง หรือ สุราษฎร์ธานี-ชุมพร จากตัวเมืองไชยาใช้บริการรถ โดยสารประจำทางสายไชยา-พุมเรียง..
อ่านต่อ |
หมู่บ้านพุมเรียงแหลมโพธิ์ |
|
ประวัติความเป็นมาเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของอำเภอไชยา อยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร มีผ้าทอที่มีชื่อเสียงเป็นผ้าทอยกดิ้นเงิน และดิ้นทองสวยงาม เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 2 กิโลเมตร แหลมโพธิ์ มีชายทะเลที่น่าเที่ยวแห่งหนึ่งของหมู่บ้านพุมเรียง มีอาหารทะเลทีมีผู้นิยมไปรับประทานกันมาก โดยเฉพาะหอยขาว ที่มีอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้เท่านั้น..
อ่านต่อ |