ลูกหยียะรัง
การทำลูกหยี ต้นหยีเป็นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง เมื่อโตเต็มที่จะมีเนื้อไม้สีดำแข็งแกร่ง ขนาดต้นสูง 50 – 100 ฟุต ออกผลเป็นพวงช่อประมาณ 50 – 100 ลูก ตรงส่วนยอดของกิ่งก้านขนาดลูกเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ตรงส่วนยอดของกิ่งก้าน เมื่อสุกมีรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ มีเมล็ดใน 1 เมล็ด ลักษณะแข็ง มีเนื้อนิ่มหุ้มเมล็ด มีเปลือกนอกเปราะเกรียม เมื่อสุกจะมีเปลือกสีดำ ต้นหยี มีมากทางภาคใต้ตอนล่าง ภาคกลางเรียกว่า “เขลง” ภาคอีสานเรียกว่า “นางดำ” ภาษามลายูถิ่นปัตตานี เรียกว่า “กรันตี” ต้นหยีมีมากที่อำเภอยะรัง ชาวบ้านในพื้นที่ทั้งไทยและพุทธ และไทยมุสลิม จึงได้นำลูกหยีมาแปรรูปกลายเป็นอุตสาหกรรมในท้องถิ่น โดยเอาลูกหยีที่แกะออกจากเปลือกแล้วห่อกระดาษแก้วออกจำหน่ายเรียกว่า “ลูกหยีแดง” มีผู้สนใจทำจำหน่ายหลายราย เช่น นายซิ้ว แซ่เลี้ยง นายแช วีรวงศ์ และเลื่อน แซ่พู ซึ่งนางเลื่อนได้มีความคิดว่า ลูกหยีนอกจากผลิตเป็นลูกหยีแดงแล้ว น่าจะเก็บไว้ได้นาน โดยการถนอมหรือกากรรมวิธีอย่างใดอย่าวหนึ่ง ปรุงรสชาติให้อร่อยขึ้น นางเลื่อนจึงได้เริ่มทำลูกหยีปรุงรส โดยการรับซื้อลูกหยีจากชาวบ้าน และได้พัฒนามาโดยลำดับ ตั้งแต่การปรุง การห่อ และการหาตลาดเพื่อส่งออกจำหน่าย ต่อมามีผู้คนสนใจการทำลุกหยีมากขึ้น และมีตลาดย่อยเพิ่มขึ้น เช่น ร้านค้าตามสถานีรถขนส่งในหมู่บ้าน ตำบล ชุมชนต่าง ๆ โรงเรียน สถานีรถไฟ การทำลูกหยีนอกจากจะมีที่อำเภอยะรัง ยังมีที่อำเภอยะหริ่ง อำเภอสายบุรี และได้ทำเป็นลูกหยีทรงเครื่อง ลูกหยีกวน ทำให้ต้นหยีเป็นพืชที่มีคุณค่า มีการอนุรักษ์ต้นหยีการทำลุกหยีจึงเป็นวัฒนธรรมทางภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวจังหวัดปัตตานี และยังเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือด้วย ได้แก่ ลูกหยีกวน (ไม่มีเมล็ด) และลูกหยีทรงเครื่อง อร่อย สะอาดถูกหลักอนามัย 1. คัดคุณภาพลูกหยีสด(ดำ) นำตากแดด 1-2 วัน 2. กระเทาะเปลือก เป็นลูกหยี(แดง) 3. นำลูกหยี(แดง)เม็ดเต็มกลมเรียวสวยที่ได้ไปแปรรูปเป็นลูกหยีทรงเครื่อง และลูกหยี(แดง)ที่เม็ดแตก ลีบ ไม่สวย นำไปแปรรูปเป็นลูกหยีกวน ได้รับ อ.ย.แล้ว |