ถ้ำโพธิ์ยอม ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 6 บ้านหนองราโพธิ์ ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู ห่างจากเขตเทศบาลตำบลกำแพงประมาณ 20 กิโลเมตร สถานที่ราชการที่ตั้งอยู่ใกล้ถ้ำโพธิ์ยอมคือโรงเรียนบ้านนางแก้ว ห่างประมาณ 2 กิโลเมตร ถ้ำแห่งนี้อยู่บนเทือกเขาหินปูน พื้นที่โดยรอบเป็นป่าโปร่ง
เมื่อปี พ.ศ. 2508 นายจัด นุ้ยจันทร์ ชาวบ้านหนองราโพธิ์ เข้าไปในถ้ำเพื่อหามูลค้างคาวไปทำปุ๋ยในนาข้าว จึงได้พบถ้ำแห่งนี้ แต่ไม่เป็นที่สนใจของคนทั่วไปนัก เดิมชาวบ้านเรียกชื่อว่า ?ถ้ำหนองยอม? ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 มีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาพักที่ถ้ำแห่งนี้ เปลี่ยนชื่อถ้ำเสียใหม่ว่า ?ถ้ำโพธิ์ยอม? คือ นำพยางค์ท้ายของหมู่บ้านคือ โพธิ์ มานำหน้าคำ ?ยอม? จึงกลายเป็นถ้ำโพธิ์ยอม ทุกวันนี้
จากการสำรวจของนักโบราณคดี จากสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ 10 สงขลา พบว่าโครงกระดูกมนุษย์ เศษภาชนะดินเผาแบบต่าง ๆ ถ้ำแห่งนี้จึงเป็นแห่งโบราณคดีสำคัญของจังหวัดสตูล เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับถ้ำภูผาเพชร
ถ้ำโพธิ์ยอมมีขนาดไม่ใหญ่นัก ความลึกของถ้ำประมาณ 120 เมตร แบ่งเป็นห้องต่าง ๆ ได้แก่ "ถ้ำโพธิ์เพชร" มีประกายคล้ายเพชร เกิดจากหินงอกและหินย้อยที่สวยงาม "ถ้ำค้างคาว" ทางด้านปีกซ้ายของถ้ำโพธิ์เพชร มีค้างคาวจำนวนมากอาศัยอยู่ ถ้ำยาวลักษณะคล้ายอุโมงค์ ยาวประมาณ 50 เมตร สูง 40 เมตร กว้าง 5 เมตร เป็นถ้ำที่ยาวที่สุด "ถ้ำพิฆเนศ" อยู่ทางด้านปีกขวาของถ้ำโพธิ์เพชร มีหินงอกรูปทรงคล้ายพิฆเนศ มีเศียรเป็นช้าง และถ้ำสายลมทางซ้ายสุดของตัวถ้ำ มีลักษณะโปร่ง ลมพัดผ่านตลอด สงบ เหมาะแก่การนั่งสงบจิตใจ หรือปฏิบัติวิปัสสนา
ถ้ำโพธิ์ยอมจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ท้าทายให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมความวิจิตรพิสดารของธรรมชาติซึ่งอยู่ใกล้กับน้ำตกวังสายทอง และถ้ำเจ็ดคด ของตำบลน้ำผุด อำเภอละงู |