หมู่บ้านจุฬาภรณ์ 10 เป็นหมู่บ้านหมู่ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่มีบรรยากาศเย็นตลอดปี มีต้นไม้ใหญ่ที่สุดในภาคใต้, น้ำตกในบริเวณ ,ที่พักตากอากาศ ,หมอฝังเข็มรักษาโรค ,สมุนไพร,อาหารจีนและติดป่าบาลา-ฮาลา เหมาะแก่การท่องเที่ยวและเข้าค่ายอย่างยิ่ง
จากการที่พรรคคอมมิวนิสต์มาลายา ได้ยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธและสลายกองทัพมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ตามข้อตกลงนามสัญญาสันติภาพ 3 ฝ่าย (รัฐบาลไทย /รัฐบาลประเทศมาเลเซีย /พรรคคอมมิวนิสต์มาลายา) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2532 ณ โรงแรมลีการ์เดนส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กองทัพภาคที่ 4 โดยพลทหารราบที่ 5 ได้จัดทำโครงการรับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยขึ้นเพื่อรองรับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยมีระยะเวลาโครงการ 6 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2533 – 2538 โดยจัดตั้งเป็นหมู่บ้านขึ้นมา เรียกว่า “หมู่บ้านรัตนกิตติ 2”
ต่อมาศาสตราจารย์ดอกเตอร์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัคราชกุมารี องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงมีพระราชประสงค์จะทำการพัฒนา โครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส เพื่อให้เกิดความมั่นคงภายในพื้นที่แนวชายแดนจึงได้โปรดเกล้า โปรดกระหม่อมทรงรับหมู่บ้าน “รัตนกิตติ 2” เข้าร่วมโครงการของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และทรงพระราชทานชื่อหมู่บ้านใหม่เป็น “หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2536 ซึ่งมีพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 8 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2547 “หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10” ได้แยกออกจาก หมู่ที่ 8 ตำบลอัยเยอร์เวง โดยได้จัดตั้งเป็น “หมู่ที่ 10 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา” ในปัจจุบัน
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10 อำเภอเบตง และเปิดงานรำลึกครบรอบ 20 ปี การลงนามสัญญาสันติภาพ 3 ฝ่าย ไทย- มาเลเซีย- สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา วันนี้ (16 ก.พ.53) ที่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10 อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และงานรำลึกครบรอบ 20 ปี การลงนามสัญญาสันติภาพ 3 ฝ่าย ไทย-มาเลเซีย-สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ที่อยู่ในประเทศมาเลเซียเดินทางมาเยี่ยมญาติและร่วมงานเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีนายเฉิน อายุ 92 ปี อดีตผู้นำติดอาวุธพรรคคอมมิวนิสต์มาลายามาร่วมงานด้วย
นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง กล่าวว่า โครงการพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บ้านจุฬาภรณ์พันา 10 เป็นศูนย์เรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ประวิติศาสตร์ โดยภายในอาคารจัดแสดงรูปภาพ ประวัติความเป็นมา และอุปกรณ์ครุภัณฑ์ที่ใช้ในอดีต โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้านบาท ส่วนงานรำลึกครบรอบ 20 ปี การลงนามสัญญาสันติภาพ 3 ฝ่าย ไทย-มาเลเซีย-สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา (พคม.) นั้น ทางราษฎรบ้านจุฬาภรณ์ 10 ได้จัดขึ้น เพื่อให้ลูกหลานชาวจีนเชื้อสายไทยและมาเลเซียในปัจจุบันได้ระลึกถึงอดีตและประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการต่อสู้ และการยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธและสลายกองทัพเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ตามข้อตกลงนามสัญญาสันติภาพ 3 ฝ่าย เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2532 กองทัพภาคที่ 4 โดยพลทหารราบที่ 5 ได้จัดทำโครงการรับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยขึ้น เพื่อรองรับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย มีระยะเวลาของโครงการ 6 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2533 ปีงบประมาณ 2538 โดยจัดตั้งเป็นหมู่บ้านขึ้นเป็น 4 หมู่บ้าน เรียกว่า หมู่บ้านรัตนกิตติ 1,2,3, และ 4 ตามลำดับ ต่อมา ศาสตราจารย์ดอกเตอร์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงมีพระประสงค์จะทำการพัฒนาโครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และ ชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เพื่อให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่แนวชายแดน จึงได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมทรงรับหมู่บ้านรัตนกิตติทั้ง 4 หมู่บ้านเข้าร่วมโครงการของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และทรงพระราชทานชื่อหมู่บ้านใหม่เป็น หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9,10,11,12 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2536