วังหนองจิกตั้งอยู่ที่บ้านตุยง ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก เจ้าเมืองหนองจิกคนสุดท้าย คือ พระยาเพชราภิบาลนฤเบศร์วาปีเขตมุจลินท์นฤบดินทร์ สวามิภักดิ์ (พ่วง ณ สงขลา ) เป็นผู้อยู่อาศัยในวังนี้ ประวัติการก่อสร้างสันนิษฐานว่าอาจสร้างมาตั้งแต่เจ้าเมืองหนองจิกคนก่อน (ทัด ณสงขลา) ก่อนปี พ.ศ.2437 ตัววังที่เหลืออยู่ประกอบด้วยอาคารบริวาร 2 หลังเป็นอาคารชั้นเดียว แต่ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร สำหรับอาคารที่เป็นตัววังนั้นถูกรื้อถอนไปในระหว่างสงครามมหาเอเชี..

...อ่านต่อ...

พระครูศรีเทวะธรรมาชัย เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาจันทร์ เล่าให้ฟังถึงประวัติของเจดีย์หลวงพ่อทวดหนอนว่าหลวงพ่อหนอนเป็นพระที่ออกบวชในสมัยอยุธยาเป็นราชธานี ออกธุดงค์โดยอาศัยเรือส าเภาของพ่อค้ามาทางภาคใต้ ในขณะเดินทางนั้น ท่านได้มองเห็นฝูงปลาว่ายตามเรือที่ท่านโดยสารมา จึงเกิดความเมตตาสงสาร ท่านจึงเชือดเนื้อของท่านให้เป็นทานแก่ปลาฝูงนั้น และเมื่อเรือสำเภาเทียบท่าที่เมืองปัตตานี ท่านได้ออกธุดงค์มายังเขามะรวดและได้พานักอยู่ที่นี่ บาดแผลที่เกิดจากการเชือดเ..

...อ่านต่อ...

สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว  ตั้งอยู่ที่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลุโละ อำเภอเมือง ตามทางหลวงหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ใกล้กับมัสยิดกรือเซะ มีตำนานเล่าว่าลิ้มกอเหนี่ยวได้ลงเรือสำเภามาตามพี่ชายชื่อลิ้มโต๊ะเคี่ยม ซึ่งมาแต่งงานกับธิดาพระยาตานี และได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามกลับประเทศจีนไม่สำเร็จ จึงได้ผูกคอตายที่ต้นมะม่วงหิมพานต์ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจึงได้ฝังศพลิ้มกอเหนี่ยวไว้ที่นี่ ต่อมาชาวปัตตานี นำต้นไม้ที่ลิ้มกอเหนี่ยวผูกคอตายมาแกะเป็นรูปบูชาและส..

...อ่านต่อ...

“การทำนาเกลือ” เป็นอาชีพที่สัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ปัตตานีอย่างไม่อาจแยกออกได้ แม้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับปัตตานีจะไม่ได้กล่าวถึงสินค้าชนิดนี้อย่างชัดเจนและต่อเนื่องนัก แต่ก็เห็นได้ว่าเกลือเป็นทรัพยากรสำคัญอย่างหนึ่งของปัตตานีที่ทำให้สามารถดำรงเป็นรัฐอยู่ได้พอๆ กับที่ปัตตานีเคยยิ่งยงในฐานะเมืองท่า  การค้ามาตั้งแต่โบราณ..

...อ่านต่อ...

เป็นสถูปในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่เก่าแก่ที่สุดที่พบในประเทศไทย ได้รับการขุดแต่งและสร้างหลังคาคลุมลักษณะอาคารเป็นโถงเปิดโล่งมีศูนย์กลางอยู่ที่สระน้ำ โอบล้อมด้วยคูเมืองรูปสี่เหลี่ยมถัดจากกลุ่มโบราณสถานบ้านวัดขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร..

...อ่านต่อ...

หาดทราย-ชายบึงบ้านละเวงมีสภาพแวดล้อมและธรรมชาติสวยงาม มีบึงขนาดใหญ่เคียงข้างหาดทรายขาวสะอาด ให้บรรยากาศแตกต่างจากหาดทรายอื่น นอกจากนี้ยังมีศูนย์ศิลปาชีพพิเศษ (กลุ่มทอผ้าบ้านละเวง) ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปชมการทอผ้าฝ้าย และโครงการทดลองเลี้ยงปลาน้ำกร่อยได้อีกด้วย..

...อ่านต่อ...

เป็นหาดทรายต่อเนื่องกับหาดชลาลัย หาดมะรวดและหาดแฆแฆ โดยอยู่ถัดจากหาดมะรวดและอยู่ก่อนถึงหาดแฆแฆประมาณ 2 กิโลเมตร การเดินทางใช้ทางเดียวกับที่ไปหาดชลาลัย และหาดมะรวด ลักษณะเด่นของหาดราชรักษ์คือเป็นหาดทรายกว้างล้อมรอบด้วยโขดหิน และหุบเขาเตี้ยๆ บนเนินเขา นับได้ว่าเป็นสถานที่ชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง..

...อ่านต่อ...

วัดบูรพาราม ตั้งอยู่เลขที่ 309 ถนนรามโกมุท หมู่ที่ 1 ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบ สภาพแวดล้อมเป็นที่นา และสำหรับปูชนียวัตถุมัพระพุทธรูปหลวงพ่อทุ่งคา พระเพลากว้าง 55 เซนติเมตร เนื้อสัมฤทธิ์ เดิมอยู่ที่วัดทุ่งคา ซึ่งขณะนี้เป็นวัดร้าง ประชาชนได้อันเชิญมาประดิษฐานที่วัดบูรพารามนี้ วัดบูรพารรามสร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อประมาณ พ.ศ.2355 สมัยสร้างเมืองยะหริ่ง โดยมีพระสมุห์พรหมได้มาตั้งสำนักอยู่ปริวาส และ..

...อ่านต่อ...

อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนยะหริ่ง มีพื้นที่โครงการรวม 500 ไร่ ศูนย์ฯนี้มีทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนเป็นสะพานที่สร้างด้วยไม้ตะเคียนทอง (Hopea Odorata) เป็นระยะทางยาวโดยรอบ 1,250 เมตร ตลอดเส้นทางเดินโดยรอบจะเห็นกลุ่มไม้ในสังคมป่าชายเลนทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้เถาและไม้พื้นล่าง ซึ่งพันธุ์ไม้แต่ละชนิดมีความสามารถขึ้นอยู่ได้ในบริเวณที่มีลักษณะแตกต่างกันโดยเฉพาะบริเวณที่อยู่ระหว่างระดับน้ำทะเลต่ำสุดและระดับน้ำทะเลสูงสุด เช่น กลุ่มไม้ถั่ว..

...อ่านต่อ...

สุสานพญาอินทิรา มุสลิมคนแรกของเมืองปัตตานี ตั้งอยู่ที่บ้านปาเระ ตำบลบาราโหม อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เหนือหลุมฝังศพมีหินแกรนิตสลักเป็นรูปก้อนเมฆ และมีอักษรภาษาอาหรับกำกับอยู่ บริเวณนี้เคยขุดพบเครื่องใช้ของคนรุ่นโบราณมากมาย สุสานพญาอินทิรา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “กูโบรายามะรือเก๊าะ” เป็นสถานที่ฝังพระศพของอดีตกษัตริย์ราชวงศ์โกตามหลิฆัย ซึ่งกษัตริย์องค์นี้เป็นผู้สร้างเมืองปัตตานีดารัสลาม (นครแห่งสันติ) ขึ้นระหว่างปี พ.ศ. ๒๐๑๒ – ๒๐๕๗ เพื่อใช..

...อ่านต่อ...