พูดถึงข้าวยำก็ต้องปักษ์ใต้ แต่ไปถึงภาคใต้ถามหาข้าวยำจะพบเมนูโดนเด่นเข้าไปอีก อย่างเช่นข้าวยำเบญจรงค์ห้าสีมีให้เห็นกระทั่งเป็นเรื่องปกติ หากต้องการหาข้าวยำที่เป็นมากกว่าข้าวยำและละก็ เห็นทีจะต้องไปแวะที่ปัตตานี ที่สะบารัง หน้าจวนผู้ว่า ลองแวะไปที่ ร้านข้าวยำเบญจรงค์ ของคุณรอยหน๊ะ กะแลแปะ เรียกหาข้าวยำห้าสี ที่เรียกกันว่า นาซิกราบู ลิมอจายอ กินอิ่มแล้วตอบตัวเองว่าข้าวยำอย่างนี้คือสิ่งที่ใช่หรือเปล่า

คุณรอยหน๊ะ ตอบด้วยความภาคภูมิใจว่าแทบไม่มีรายใดเลยที่ลองนาซิกราบู ลิมอจายอ ร้านข้าวยำเบญจรงค์ นี้แล้วจะไม่กลับมาอีก ร้านข้าวยำที่นี่จอกจากจะร่ำรวยด้วยสมุนไพรกระทั่งเป็นอาหารทรงโภชนาการตำรับหนึ่งของภาคใต้แล้ว รสชาดยังสร้างความติดใจได้ชนิดไม่รู้ลืม

นอกเหนือจากข้าวยำห้าสีที่เป็นส่วนผสมระหว่างสีธรรมชาติทั้งสีฟ้าจากดอกอัญชัญ สีดำจากใบยอ สีเหลืองจากขมิ้น รวมทั้งสีขาวของข้าวและสีแดงจากข้าวกล้อง ร้านข้าวยำเบญจรงค์ยังเด่นด้วยปลาย่างที่เป็นเมนูขายดี ข้าวเกรียบเคียงคู่กับชาชัก หมี่กะทิกุ้งสดปักษ์ใต้ นอกจากนี้ยังมีละแซ เมนูขนมจีนปักษ์ใต้สีขาวนวลที่รสชาดฉกาจฉกรรจ์ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง

อาหารปักษ์ใต้ฝีมือคุณรอยหน๊ะ ในปี 2553 ทั้งรองนายกรัฐมนตรี ดร.ไตรงค์ สุวรรณคีรี และรัฐมนตรีพานิชย์ คุณพรทิวา นาคาศัย มีโอกาศลิ้มลองชนิดต่างกรรมต่างวาระ แม้จะมาจากคนละพรรคการเมือง กลับให้ข้อสรุปตรงกันว่าอร่อยเลิศหรู แต่สนนราคากลับไม่เท่าไหร่ ข้าวยำเองใช้น้ำบูดูของครอบครัว ใช้เวลาเคี่ยวนานทำให้มีกลิ่นของบูดูที่บางคนอาจกังวล ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านนี้เป็นคนทำงาน เข้ามากินข้าวยำกับปลาย่าง และเมนูอื่นๆ ช่วงเที่ยงและเย็นลูกค้าค่อข้างหนาแน่น

ร้านข้าวยำเบญจรงค์ หาไม่ยาก เมื่อเข้าเมืองปัตตานีขับไปตามถนนหนองจิกเป็นสายหลัก มองหาจวนผู้ว่าได้ง่ายๆ ร้านตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกันไปหน่อย หน้าร้านสะอาดสะอ้าน มีโต๊ะให้นั่งเหมือนร้านอาหารทั่วๆไป มีที่นั่งพอสมควร ร้านข้าวยำเบญจรงค์เตรียมอาหารฮาลาลได้อย่างหะล้าลแท้ ควบคู่กับร้านมีสุขอนามัยที่ดี มีการล้างถ้วยจานภาชนะถูกต้องตามหลักการอิสลาม สร้างเสน่ห์เพิ่มเติมเข้าไปอีก